หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,055 ประจำวันที่ 4-10 ธันวาคม 2566 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวคราวในแวดวง “คนยานยนต์” กับวังวนแห่งการรอผลความสำเร็จ จากการเก็บเกี่ยว “ยอดจองสุดท้าย” จากงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่เชื่อว่า…จะเป็นต้นทุนแห่งปี 2567 ที่ยังไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ หรือปัญหาแห่งสงคราม จะเป็นอีกตัวแปรของการที่จะทำให้แต่ละค่ายยานยนต์ประสบกับปัญหามากน้อยเพียงใด เพราะตั้งแต่เกิดโควิด-19 บวกปี 66 อีก 1 ปี แทบจะหารอยยิ้มจากคนยานยนต์ไม่เจอ  ผสมผสานกับความไม่แน่นอนแห่งทิศทางการเมือง ความไม่แน่นอนนั่นแหละ แน่นอนที่สุด “รามอินทรา” เอาใจช่วย อยากเห็นรอยยิ้มจากทุกค่ายนะครับ…*** “รามอินทรา” เจาะข่าวหารอยยิ้มกันบ้าง อย่างน้อยรอยยิ้มบางๆ ก็น่าจะโอเคแล้วละ ซึ่งน่าจะเป็นรอยยิ้มจาก “เจ๊เจี๊ยบ” มนวรา เพชรพลากร นั่นเอง เพราะยอดขายรถยนต์ฮอนด้า ที่น่าจะโอเคสุดแล้วละ ในบรรดารถน้ำมัน ก้อ… “ฮอนด้า” เปิดรุ่นไหน ขายได้ทุกรุ่น เลยไม่ได้เห็นแค่รอยยิ้มของ “เจ๊เจี๊ยบ” เท่านั้น หากยังเห็นรอยยิ้มของ “คนฮอนด้า ออโตโมบิล” ทุกคนด้วยละ…*** อีกรอยยิ้มเป็นของผู้ชายมาดเข้ม “ประธานต่อ” รัฐการ จูตะเสน เมื่อยอดจองของฟอร์ด เรนเจอร์ ยังคงอยู่เบอร์ 3 ของตลาดรถปิกอัพ ก้อ…ยืนเบอร์นี้มานานแล้ว น่าจะตั้งแต่เปิดตัวในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ปีก่อนโน้น นี่ก็มีข่าวว่า…จะยึดเบอร์ 3 แบบถาวร เพื่อเป็นต้นทุนต่อไปในปี 2567…*** ค่ายนี้ไม่มีรอยยิ้ม แต่ “รามอินทรา” ก็เอาใจช่วย เพราะอยากเห็นรอยยิ้มของ “เสี่ยลภ” วัลลภ ตรีฤกษ์งาม แต่เสียดายที่ยังไม่มี ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ มาให้คนไทยอยากเป็นเจ้าของ หวังว่า…ปีหน้าในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ไม่รู้จะได้เห็นหรือไม่ ก้อ…เป็นอีกค่ายที่ “รามอินทรา” ยกมือเชียร์ อยากเห็นรอยยิ้ม “เสี่ยลภ” นั่นแหละ ไม่รู้จะได้เห็นมั้ย? …*** ค่ายนี้เปลี่ยนนายแล้ว ไม่รู้ว่าข่าวคราวจะเยอะขึ้นมั้ย เป็นค่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ที่ มร.เรียวอิจิ อินาบะ เพิ่งจะโยกเยกมารับตำแหน่ง พร้อมเปิดตัวมิตซูบิชิ ไทรทัน ตัวท็อป เพื่อมาเพิ่มยอดจอง เพราะตัวแรกสตาร์ตแล้ว เครื่องไม่ติด “รามอินทรา” เชียร์ให้ยอดจองโอเค จะได้เป็นพลังให้ “นายญี่ปุ่น” คนใหม่ มีพลังเดินเกมในปีหน้า ยอดจองปังๆ นะครับ…*** จากรถน้ำมัน…ชะแว้บไปแอบมองรถไฟฟ้ากันบ้าง ก้อ…ยังไม่รู้จะต้นแรงปลายแผ่วหรือไม่? กับการขับเคลื่อนของ “บีวายดี” ของ “เสี่ยพก” ประธานวงศ์ พรประภา แหม…ยอดจองจิ๊ดปังเหลือเกิน แต่ที่เหมือนจะไม่จิ๊ดด้วย เป็น “ท่อน้ำเลี้ยง” นั่นแหละ “รามอินทรา” ยังไม่เห็นน้ำไหลออกจากท่อเหมือนยอดจอง อยากบอก…ถ้าขืนยังท่อตันอยู่ยังงี้…จะไม่มี “คนสื่อ” เป็นกองเชียร์ เพราะที่ผ่านมา…แต่ละค่ายรถไฟฟ้านั้น “ท่อน้ำเลี้ยง” ไม่ค่อยไหลเลย หรือเป็นเพราะท่อเป็นสนิม…*** ข่าวท้ายคอลัมน์ “รามอินทรา” อดเป็นห่วงเส้นทางแห่งยานยนต์ไทยในปี 2567 ที่ยังไม่ชัดเจนเรื่องทิศทาง แต่ที่คาดการณ์ได้ “งบ” นั้นยังไงก็เหลือน้อย เพราะยอดขายของแต่ละค่ายในปี 2566 นั้น ชัดเจนยิ่งว่า…เป็นเยี่ยงไร? เมื่อเหลียวดูเส้นทาง “คนสื่อ” ยิ่งน่าเป็นห่วง งบน้อย คนสื่อเยอะ…ยังไงก็ดูแลทั่วถึงได้ยากยิ่ง แต่ฝากข้อคิด…ตราบใดที่น้ำยังพึ่งเรือเสือยังพึ่งป่า ค่ายยานยนต์ยังต้องพึ่งพาการนำเสนอข่าวคราว อยู่แค่ว่าจะเลือกวิธีไหน? เพื่อให้สามารถดำรงอยู่ได้ร่วมกัน ฝากให้ทุกค่ายยานยนต์คิดเผื่อไว้ด้วยนะครับ…*** ย่อหน้าสุดท้าย “รามอินทรา” ให้ห่วงใยชีวิตคนทำงาน ที่วันนี้แต่ละค่าย ชีวิตติดประชุม ยังไม่รู้เลยว่าจะติดพันไปถึงปีหน้าหรือไม่? ที่เข้าออฟฟิศเพื่อประชุม ส่วนงานเอาไว้ทำนอกเวลา สุดท้าย…ไม่รู้ว่าใครจะอดทนกว่ากัน คนเรียกประชุมหรือคนเข้าประชุม เมื่อประชุมมากกว่าการติดตามงาน ที่ยังไงก็ต้องติดเหมือนติดประชุมนั่นแหละ เอวัง…ก็มีด้วยประการฉะนี้…*** พบกันใหม่…สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ…***