‘อีเอ็กซ์30’ สวยล้ำ สานต่อความนิยม
ยิ่งใหญ่อลังการกับงานเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด ของค่ายวอลโว่ เรียกกระแสความคึกคักและสานต่อความนิยมยานยนต์อีวีภายใต้เทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ที่มุ่งไปสู่อนาคต กับ Volvo EX30 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า 100% ไซซ์เล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมาของแบรนด์วอลโว่ ขายในไทย 3 รุ่นย่อย เริ่มต้น 1,59 ล้านบาท จองวันนี้พร้อมส่งมอบต้นปี 2567
เป้าหมายสำคัญของการเปิดตัว Volvo EX30 ที่มาในรูปแบบรถยนต์เอสยูวีไฟฟ้า 100% ไซซ์เล็กที่สุดของค่ายวอลโว่ คาร์ ประเทศไทย คือการขยายกลุ่มเป้าหมายลูกค้า ที่ต้องการใช้งานรถยนต์อีวี ที่ให้ความคุ้มค่าทั้งตัวผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีที่ให้ความทันสมัยควบคู่ไปกับราคาที่สามารถเอื้อมถึง
นายคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ, วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “EX30 เป็นเอสยูวี ขนาดเล็กที่สร้างคาร์บอนฟุตพรินท์ (carbon footprint) น้อยที่สุดของวอลโว่ เราเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวในครั้งนี้ จะเป็นรถที่ตรงต่อความต้องการของผู้คนมากมายที่มีปณิธานเดียวกันกับวอลโว่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเมือง และกำลังมองหารถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต”
Volvo EX30 นับเป็นพรีเมียม เอสยูวี ขนาดเล็ก ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “รักษ์โลก” เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนกระบวนการผลิต ไปจนถึงเทคโนโลยี และงานออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียน เพื่อมอบความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความเพลิดเพลินในการขับขี่ที่มากขึ้นแก่ผู้ใช้งานวอลโว่
ครอสโอเวอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ อัดแน่นด้วยแทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมขนาดตัวถังที่กะทัดรัด ด้วยไซซ์ ความกว้าง 1,837 มม. ความสูง 1,549 มม. ความยาว 4,233 มม. รถยนต์รุ่นนี้ยังมอบความใส่ใจในด้านความปลอดภัยภายใต้โครงสร้างที่แข็งแกร่งจากเสา A และ C รวมถึงหลังคาของตัวรถ อีกทั้งยังมีถุงลมนิรภัยกลางห้องโดยสารซึ่งเก็บอยู่ใต้เบาะคนขับถูกออกแบบมาเพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศรีษะและบริเวณหน้าอกหากเกิดการชนจากด้านข้าง
ในส่วนของการออกแบบดีไซน์ Volvo EX30 มีความคล้ายคลึงกับรุ่นพี่ อย่าง Volvo XC40 แต่มีขนาดที่เล็กลงมาอย่างชัดเจนในทุกมิติ แต่มีการใส่รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อทำให้ตัวรถดูมีความวัยรุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะหลังคาแมทาลิคสีดำ Onyx Black ให้ความโดดเด่น ตัดกับเฉดสีรถที่มีให้เลือกถึง 5 สีได้แก่ สีเหลือง Moss Yellow สีฟ้า Cloud Blue สีเทา Vapour Grey สีขาว Crystal White และสีดำ Onyx Black
ด้านหน้าของตัวรถ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าปิดทึบตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า มาพร้อมกับไฟหน้า LED พร้อมระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ และยังมีชุดอุปกรณ์เรดาร์สำหรับตรวจจับสิ่งกีดขวางหน้ารถ และระบบกล้อง 360 องศา (ยกเว้นรุ่น Core จะมีเฉพาะกล้องมองหลัง) ด้านข้างตัวรถเน้นการออกแบบให้มีความทันสมัย สอดรับไปยังด้านท้ายของตัวรถ ไฟท้าย LED มาพร้อมใบปัดน้ำฝนสำหรับกระจกหลังรถ ฝาท้ายรถเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
พื้นที่เก็บสัมภาระหลังรถ มีความจุอยู่ที่ 318 ลิตร และสามารถเปิดฝาออกเพื่อเก็บของที่ชั้นล่างเพิ่มเติมได้อีก 61 ลิตรด้วยกัน นอกจากนี้ เบาะนั่งแถว 2 ยังสามารถพับแบบราบเรียบได้ โดยสามารถแยกพับแบบ 60:40 ได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ ใต้ฝากระโปรงหน้า มีช่องเก็บของพร้อมฝาปิดกันน้ำกันฝุ่นมาให้เพิ่มเติมอีก 1 จุด
ภายในของ Volvo EX30 ไม่เพียงนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัย แต่ยังถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความคล่องตัว และตอบโจทย์การใช้งาน มอบความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยี และการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนที่ภายในตัวรถมีความทันสมัย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดยวอลโว่ได้นำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่มาชุบชีวิตให้มีประโยชน์อีกครั้ง อาทิ การใช้วัสดุเส้นใยจากยีนส์ และต้นเฟล็กซ์มาใช้ทำเป็นเบาะที่ให้สีสันและสัมผัสที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์
สำหรับแผนการทำตลาดของ Volvo EX30 จะมุ่งเน้นไปที่การเจาะตลาดกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเมือง และกำลังมองหารถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต โดยบริษัทวางแผนการขายแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ประกอบด้วย Volvo EX30 Core – Single Motor Extended Range ราคาเริ่มต้น 1,590,000 บาท, Volvo EX30 Ultra-Single Motor Extended Range ราคาเริ่มต้น 1,790,000 บาท และ Volvo EX30 Ultra-Twin Motor Performance ราคาเริ่มต้นที่ 1,890,000 บาท
รุ่นมอเตอร์เดี่ยว Extended Range มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC แบบ extended-range ให้ระยะทางสูงสุดถึง 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม รองรับกำลังการชาร์จเร็ว (DC) สูงสุด 153kW ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ Performance มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC ให้กำลังสูงสุด 428 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที ทำให้ Volvo EX30 เป็นรถยนต์วอลโว่ที่มีอัตราการเร่งเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และการชาร์จดีซีสูงสุด 153kW ใช้เวลาการชาร์จจาก 10-80% ประมาณ 25 นาที