“บีวายดี” เปิดความสำเร็จ เดินสายผลิตคันที่หนึ่งหมื่น

บีวายดี ประกาศความสำเร็จผลิตรถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 10,000 จากสายการผลิตของโรงงานบีวายดี ประเทศไทย ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จังหวัดระยอง สร้างปรากฏการณ์ในฐานะแบรนด์ยนตรกรรมจากประเทศจีน ที่สามารถผลิตรถยนต์ออกสู่ตลาดประเทศไทยครบหนึ่งหมื่นคันได้เร็วที่สุด หลังเปิดดำเนินการเพียง 4 เดือน
หลังจากที่บีวายดีเปิดสายการผลิตที่โรงานในประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ล่าสุด บีวายดีฉลองการผลิตครบ 10,000 คัน นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในโอกาสครบรอบ 30 ปีของบีวายดี และสะท้อนความมุ่งมั่นที่จะผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางของการใช้และการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาค
สำหรับโรงงานบีวายดีในประเทศไทย ถือเป็นการเปิดสายการผลิตนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก และเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ด้วยพื้นที่รวมประมาณ 600 ไร่ ซึ่งบีวายดีวางตำแหน่งให้โรงงานแห่งนี้เป็นฮับการผลิตและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันมีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 150,000 คันต่อปี ได้แก่ BYD DOLPHIN, BYD ATTO 3 และ BYD SEALION 6 โดยรถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 10,000 คือ BYD SEALION 6 DM-i Plug-in Hybrid ซึ่งได้เริ่มทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าชาวไทยแล้ว หลังจากสร้างกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น นับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บีวายดียังวางแผนการลงทุนรวม 9 โครงการ ทั้งโรงงานประกอบรถยนต์ ผลิตชิ้นส่วน การเชื่อม การทำสี และการประกอบแบตเตอรี่ และชื้นส่วนสำคัญอื่นๆ เช่น ระบบส่งกำลังอีกด้วย โดยมีเม็ดเงินมูลค่าลงทุนรวมกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท
สำหรับประเทศไทย บีวายดีเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ร่วมกับ เรเว่ ออโตโมทีฟ พร้อมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรก อย่าง อัตโต ทรี ในวันที่ 11 เมษายน 2565 และในเวลาต่อมาได้เข้ามาสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในไทย ซึ่งใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างโรงงาน 16 เดือน ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก และโรงงานแห่งนี้เมื่อเปิดเต็มรูปแบบ จะก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 10,000 ตำแหน่ง รวมถึงมีแผนร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในท้องถิ่น ยกระดับการพัฒนาบุคลากร ร่วมกันส่งเสริมธุรกิจของบีวายดี และอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ก้าวสู่ทิศทางใหม่ ทั้งเทคโนโลยี และพลังงานสะอาด
บีวายดีมุ่งมั่นที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการรังสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์พลังงานใหม่คุณภาพสูงให้กับลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน