มิตรภาพผ่านเว็บไซต์ 642 ส่องกล้อง…คนสื่อ ความแตกต่าง…ที่ชัดเจน แต่มีความสนิทสนม
ในวันที่โลกของการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไป ทำให้โลกของคนสื่อก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยเฉพาะ… “คนสื่อสิ่งพิมพ์” ที่ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับยุคสมัย ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ยากลำบากกว่าด้วยจำนวนคนสื่อที่มีมากมายจนนับไม่ถ้วน ด้วยเหตุเพราะ…เป็นการเกิดที่ง่ายมาก เพียงแค่มือถือเครื่องเดียวก็สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ “คนยานยนต์” เองก็เกิดความสะสม และไม่แน่ใจกับจำนวนคนสื่อ ที่เริ่มไม่คุ้นเคยมากขึ้น รวมถึง…รูปแบบการนำเสนอก็ไม่มีเอกลักษณ์ เป็นการนำเสนอที่เป็นสไตล์ ก๊อปปี้เพรส รับข่าวมาก็นำเสนอไป “รามอินทรา” เองก็เริ่มไม่คุ้นเคยกับคนสื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ล้วนแต่เป็นคนแปลกตาซะมากกว่า
ก้อ…มีบ่อยครั้งที่ “รามอินทรา” เริ่มทบทวน “คนสื่อ” ที่เคยคุ้ยเคย และยังได้เจอะเจอกันอยู่บ่อยครั้งตามงานต่างๆ 1 คนที่ยังอยากจะเขียนถึง และยังคงกริ๊งกร๊างคุยกับบ่อยครั้งเป็นเจ้าของรายการขับซ่า สุรมิส เจริญงาม ที่ถือว่าเป็นคนสื่อคุณภาพที่ได้รับการยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านยานยนต์บุคลิกที่ชัดเจน ความเชื่อมั่นทั้งจากคนติดตามและคนบริษัท ทำให้เป็นอีกคนที่ยังสามารถยืนอยู่ได้แบบมั่นคง จนถูกเชิญเป็นวิทยากรรายการต่างๆอีกด้วย กับ “รามอินทรา” แม้จะไม่ได้เจอะเจอกัน หรือคุยกันแบบใกล้ชิด แต่ก็มีบางครั้งที่ “รามอินทรา” กริ๊งกร๊างไปคุยด้วย บางครั้งก็มีเรื่องอยากถาม บางคราวก็เป็นการวิเคราะห์บางเรื่องราว เป็นเหมือนการได้เวลาเปลี่ยนความคิดเห็น ที่ทำให้ “รามอินทรา” ได้รับรู้และวิเคราะห์อย่างถูกทาง
ที่แปลกกว่านั้น… “สุรมิส” เคยเป็น “คนกรังด์ปรีซ์” ในยุคสมัยหนึ่ง เพียงแต่วิถีทางและหน้าที่ความรับผิดชอบ ทำให้ไม่ค่อยสนิทสนมกันมากนัก แต่รู้จักทักทายกันในโอกาสที่ได้เจอกัน แล้ววันหนึ่ง… “สุรมิส” ก็ก้าวออกจาก “กรังด์ปรีซ์” เพื่อไปเติบโตในทิศทางของตัวเอง จนได้ใช้ความรู้ความสามารถต่อยอดจนเป็น “สุรมิส ขับซ่า” ที่คนในแวดวงยานยนต์รู้จักและยอมรับกันเป็นอย่างดี และสุดท้ายด้วยเส้นทางของคนสื่อสายยานยนต์ ทำให้วกวนมาเจอกัน แถมยังสนิทกันมากขึ้น และต่างยอมรับในทิศทางที่แต่ละคนก้าวเดิน ทำให้การสนิทสนมของ “รามอินทรา” กับ “สุรมิส” แตกต่างจากคนอื่นไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่เคยได้คุยกันยาวๆ แบบเจอตัว ทักทายกันบ้างตามงานต่างๆ และถ้ามีอะไรอยากรู้ “รามอินทรา” ก็มักจะกริ๊งกร๊างไปคุยด้วย แต่ก็ไม่บ่อยครั้ง
วันนี้… “สุรมิส” จึงเป็นเหมือนอีกมิตรภาพ ที่มีความแตกต่างจากคนอื่น แต่ก็เป็นความเข้าใจของคนที่มีอาชีพเดียวกัน ต่างแค่วิธีการนำเสนอ และเส้นทางแห่งความรู้ ซึ่งให้การยอมรับซึ่งกันและกัน เป็นอีกวิถีทางเท่านั้น เพราะ “รามอินทรา” ยังคงอยู่กับความเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ ยังรักที่จะเขียนหนังสือ ยังรักที่จะเป็นคนเขียนวิเคราะห์ และส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของคนบริหารและคนบริษัท ที่กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สัปดาห์ละ 3 คอลัมน์ 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น “รามอินทรา” ยกนิ้วให้ “รามอินทรา” จุ๊กจิ๊ก และ “รามอินทรา” จอ…จ่อ…จ้อ เป็น 3 เรื่องที่ต้องขอบคุณที่ยังมีคนติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้กันตลอดมา เป็นนความโชคดีที่สุด
ก้อ…หวังว่าจะยังคงสนับสนุนกันต่อไป ตราบใดที่ “รามอินทรา” ยังเป็นคนเขียนหนังสือ ขอบคุณจริงๆ
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
8 ธันวาคม 2568