ลองขับ By OIL VOLVO EX30 รถไฟฟ้ารักษ์โลก ตอบโจทย์คนใช้อีวี

VOLVO EX30 เป็นรถยนต์เอสยูวีขนาดเล็กที่สุดของค่ายวอลโว่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ที่อัดแน่นทั้งเรื่องความรักษ์โลกตั้งแต่การผลิต ไปจนถึงเทคโนโลยี และงานออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียน เพื่อมอบความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความเพลิดเพลินในการขับขี่ที่มากขึ้นแก่ผู้ใช้งาน
การออกแบบของ EX30 จะเน้นในเรื่องของการให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้ดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับสแกนดิเนเวียน ตัวรถมีขนาดกะทัดรัด วัสดุภายนอกของ EX30 ผลิตขึ้นโดยมีส่วนประกอบของอะลูมินั่ม รีไซเคิล 25%, เหล็ก รีไซเคิล 17% และพลาสติก รีไซเคิล 17% รวมถึงห้องโดยสารภายในก็ได้นำเอาวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนมาเป็นส่วนประกอบ โดยแบ่งการตกแต่งห้องโดยสารภายในได้ 3 แบบ ได้แก่ แบบ Breeze, Indigo หรือ Mist
ดีไซน์ภายนอกเติมความโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED สไตล์ Thor’s Hammer ช่องรับอากาศด้านหน้า มีชัตเตอร์ที่สามารถปิดได้เมื่อไม่ต้องการระบายความร้อนด้วยอากาศเพื่อปรับปรุงแอโร่ไดนามิก และเสริมประสิทธิภาพการขับขี่และการใช้พลังงานแบตเตอรี่
รถ Volvo EX30 ที่เราได้ทดลองขับกันในครั้งนี้จะมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่นมอเตอร์เดี่ยว Extended Range ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC แบบ Extended-Range ให้ระยะทางสูงสุดถึง 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 153kW และรุ่นที่เป็นมอเตอร์คู่ Performance มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC ให้พลังการขับเคลื่อนสูงสุด 428 แรงม้า (315 kW) จึงให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที ทำให้ Volvo EX30 มีอัตราการเร่งเร็วที่สุดในบรรดาตระกูลรถไฟฟ้าของวอลโว่ สำหรับตัวถังของทั้ง 2 รุ่น จะมีการออกแบบที่เน้นในเรื่องของการกระจายน้ำหนัก และมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ เพื่อรักษาบาลานซ์ ช่วยเสริมในเรื่องของความคล่องตัวในเวลาขับขี่
การดีไซน์ภายในตัวห้องโดยสารยังเน้นในเรื่องการให้ความสำคัญในการสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมด้วยการนำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนมาเป็นส่วนประกอบในการผลิต โดยคงคอนเซปต์ในสไตล์มินิมอล ฟังก์ชันต่างๆ ถูกจัดวางไว้ให้ใช้งานอย่างเรียบง่าย ตรงกลางคอนโซลมีหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ตั้งอยู่พร้อมทำหน้าที่ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวรถ และยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน มีบริการจาก Google ระบบยังรองรับการอัปเดตแบบ OTA และรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณระดับ 5G เครื่องเสียงพรีเมียมจาก Harman Kardon Premium Sound พร้อมมอบความบันเทิงพลังเสียงที่ทรงพลัง
ในห้องโดยสารยังติดตั้งหลังคาแบบพาโนรามิกกลาสรูฟ พร้อมมอบความโปร่งโล่งสบายให้แก่ห้องโดยสาร เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าทั้งฝั่งคนขับและคนนั่ง และมีโทนเสียงและไฟ Ambient ที่มีให้เลือกถึง 5 ธีม ซึ่งทั้งหมดได้รับแรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์แถบสแกนดิเนเวียน โดยสีไฟจะแสดงออกที่บริเวณแผงหน้าปัด แผงข้างประตู และที่เก็บของเบาะนั่งด้านหน้า
Volvo EX30 ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง Safe Space Technology ที่ได้รับการการันตีในระดับโลก อาทิเช่น Pilot Assist และ Park Pilot Assist เพื่อเสริมประสิทธิภาพในเรื่องของการขับขี่ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อช่วยทั้งการป้องกัน และปกป้องผู้ใช้รถ เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยแจ้งเตือนการเปิดประตู (Door Opening Alert) ผ่านเรดาร์ที่ตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่มาจากด้านหลัง เช่น รถจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ โดยรถจะส่งเสียงเตือนหากคนในรถจะเปิดประตูเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
เข้าสู่โหมกการทดลองขับจากจุดสตาร์ตบนถนนเกษตร-นวมินทร์ มุ่งหน้าไปยังสนามสอนขับรถยนต์แถวนครปฐม โดยช่วงแรกเป็นการขับในรูปแบบในเมืองที่มีการจราจรที่ค่อนข้างแออัด การขับขี่ในช่วงนี้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้มากนัก ตัวรถให้การตอบสนองที่คล่องตัวเมื่อต้องการเปลี่ยนเลนกะทันหัน แถมมีระบบคอยช่วยเตื่อนเมื่อมีรถเข้ามาในระยะใกล้ พวงมาลัยคอนโทรลง่าย
ในส่วนของการใช้งานในโหมดห้องโดยสาร เราสามารถปรับฟังก์ชันต่างๆ ได้ผ่านหน้าจอทัชสกรีนตรงคอนโซลกลางได้ทั้งหมด ทั้งในเรื่องของการปรับเซ็ตค่าต่างๆ ระบบความปลอดภัยของตัวรถสามารถเปิด-ปิดได้ สะดวกต่อการใช้งาน ในส่วนของขุมพลังของ Volvo EX30 ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมทั้ง 2 รุ่น ทั้งมอเตอร์เดี่ยว ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC แบบ Extended-Range ให้ระยะทางสูงสุดถึง 480 กิโลเมตร ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC ให้พลังการขับเคลื่อนสูงสุด 428 แรงม้า (315 kW) จึงให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที ทำให้ Volvo EX30 มีอัตราการเร่งเร็วที่สุดในรถตระกูลรถไฟฟ้าของวอลโว่
บทสรุป Volvo EX30 ถือเป็นรถไฟฟ้าพรีเมียมที่ให้การขับขี่ที่สนุก มีความคล่องตัว สามารถใช้งานได้ทั้งในเมืองและวิ่งทางไกล ฟังก์ชันความปลอดภัยที่จัดมาให้อย่างครบครัน ด้วยค่าตัวรุ่นเริ่มต้นที่ 1,590,000 บาท ก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายสแกนดิเนเวียนได้แล้ว ยังไงอยากให้ลองเปิดใจกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ดู ไม่แน่ เมื่อคุณลองขับ คุณอาจจะถูกใจ ใช่เลย กับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์พรีเมียมจากวอลโว่ที่พร้อมมอบความคุ้มค่าในราคาที่เอื้อมถึง