“อีซูซุ” พลิกโฉม มังกรตัวเก๋า ตอกย้ำคุณภาพ ขุมพลัง 2.2

ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ขนทัพรถยนต์อีซูซุหลากรุ่นทั้งมาตรฐานยอดนิยม ที่โดดเด่นด้วยขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต และโมดิฟายคาร์ หลากรุ่น ครบทุกไลฟ์สไตล์ รวมทั้งสิ้น 15 คัน อวดโฉมแน่นเต็มพื้นที่ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 พร้อมเผยโฉม ISUZU DRAGONMAX รถตกแต่งพิเศษแบบ Restomod หนึ่งเดียวที่มาพร้อมขุมพลังใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้ทรงพลังยิ่งขึ้น
กลุ่มตรีเพชร โดย มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุภูมิใจนำเสนอบูธในคอนเซปต์ “Isuzu Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” มีวัตถุประสงค์เพื่อตอกย้ำแบรนด์อีซูซุที่ผู้ใช้ชาวไทยไว้วางใจตลอด 68 ปีที่ผ่านมา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงตามแบบฉบับญี่ปุ่น สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ชาวไทยอย่างแท้จริง คือ ประหยัดน้ำมันที่สุด ทนทานที่สุด คุ้มค่าเงินสูงสุด พร้อมการบริการดูแลและสร้างความพอใจแก่ผู้ใช้ตลอดอายุการใช้งาน”
“อีกทั้งอีซูซุยังให้ความสำคัญต่อคุณค่าทางสังคมไทย ด้วยการผลิตรถที่เน้นการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ เช่น รถปิกอัพที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปประเทศต่างๆ ทั่วโลก ใช้ชิ้นส่วนไทยมากกว่า 90% ก่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ที่แข็งแกร่งของไทยในระดับโลก เกิดการจ้างงาน และส่งเสริมอุตสาหกรรม เศรษฐกิจไทยตลอดมา”
ภายในบูธของอีซูซุ มีการจัดแสดงรถยนต์รวมทั้งสิ้น 15 คัน ทั้งรุ่นมาตรฐานยอดนิยม จำนวน 8 คัน และตกแต่งพิเศษหลากสไตล์ จำนวน 7 คัน และ 1 ในรถตกแต่งพิเศษนั้นคือ “ISUZU DRAGONMAX” โดดเด่นในคอนเซปต์ “Restomod” ซึ่งมีที่มาจากคำว่า “Restoration” และ “Modernization” เป็นการนำรถปิกอัพอีซูซุยอดนิยม รุ่น TFR ปี 1988 มาปรับลุคใหม่ เสริมสไตล์สปอร์ต ทันสมัย โดดเด่นภายนอกจรดภายใน ใหม่หมดทุกมุมมอง ดีไซน์กันชนหน้า กระจังหน้า ฝากระโปรงหน้าใหม่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟ DRL ที่กันชนหน้า ชุดสเกิร์ตข้างดีไซน์ใหม่แบบ Muscle Line ที่ซุ้มล้อ ฝากระบะท้ายพร้อมสปอยเลอร์ Duck Tail ดีไซน์ใหม่
ดูดุดันยิ่งขึ้นด้วยโป่งล้อที่แก้มหน้าและกระบะท้ายแบบ Wide Body กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า สะกดสายตาด้วยชุดไฟท้าย LED ใหม่ ทันสมัยกับสีตัวรถ Katana Matte Silver เปลี่ยนระบบช่วงล่างพร้อมระบบบังคับเลี้ยวใหม่ ด้วยชุดแร็ค พวงมาลัย ปีกนก คอม้า และเพลาท้ายใหม่ ชุดโช้คอัพ Profender รุ่น Queen Series & Piggy Back ล้อแม็ก Bradley-V ขนาด 8×17 นิ้ว ยาง Yokohama Advan Fleva V701 ขนาด 225/50/17 ชุดจานดิสก์เบรกหน้า-หลัง Brembo พร้อมจานเบรกขนาด 340 และ 320 มม.
ภายในเพิ่มความหรูหราแฝงรสนิยมขั้นสุดกับห้องโดยสารด้วยคอนโซลหน้า เบาะและชุดแต่งอาคันทาร่ายกเซ็ต เสริมความสปอร์ตด้วยเบาะ Recaro Premium Classic Seat หุ้มอาคันทาร่า พร้อมมาตรวัด AIM MXT ขนาด 10 นิ้ว อ่านค่าความเร็ว วัดรอบเครื่องยนต์ วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง วัดความร้อนเครื่องยนต์ ติดตั้งจอกลางแบบ Android ขนาด 11.8 นิ้ว วัดค่าฟังก์ชันต่างๆ จากกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU Shop Ultra Boost เช่น วัดบูสต์เทอร์โบ วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง และอุณหภูมิภายนอก
ที่สำคัญคือการผสานเข้ากับที่สุดของขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต “ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE…The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก” ห้องเครื่องสร้างใหม่โดย BRD เพิ่มความแรงเต็มสปีด แรงไร้ควันด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU SHOP Ultra Boost ปรับจูน 220 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตัน-เมตร และคันเร่งไฟฟ้า Boost Speed Next ซึ่งตอกย้ำแนวคิด “Isuzu Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายได้อีกด้วย
ขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต “ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE…The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้น ได้รับการตอบรับที่ดีมากโดยในระยะเวลา 3 เดือนนี้ มีลูกค้ามากกว่า 22,000 คนทั่วประเทศ ได้ทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่นี้แล้วทั้ง อีซูซุ ดีแมคซ์ และ อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ลูกค้าต่างพอใจกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของทั้งเครื่องยนต์ใหม่ 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดใหม่ ในด้านพละกำลัง ความเร็ว และความนุ่มนวลในการขับขี่
“ภายในบูธยังมีกิจกรรม ISUZU Time Traveler “อีซูซุ คู่หูคู่ใจ ให้ AI พาข้ามเวลา” ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกับ AI ที่จะพาคุณเดินทางผ่านช่วงเวลาต่างๆ ไปกับคู่หู ISUZU ผ่านทาง https://bit.ly/41HwKmo พร้อมลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษมากมาย อีกทั้งยังสามารถร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ความผูกพันกับอีซูซุในกิจกรรม “ความทรงจำดีๆ กับอีซูซุ” พร้อมติด #IsuzuTrustedStory ในแอปพลิเคชัน my-ISUZU และ Facebook : All-New ISUZU D-Max, All-New ISUZU MU-X และ ISUZU Trucks Thailand อีซูซุยังมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าที่จองรถในงานได้ร่วมลุ้นรับบัตรกำนัลมูลค่า 22,000 บาท ทุกวัน รวมมูลค่า 1,232,000 บาท อีกด้วย” มร.ทาคาชิ ฮาตะ ทิ้งท้าย