อีวี “วอลโว่” โตก้าวกระโดด เสริมรถใหม่ อัปเกรดบริการ

ภายใต้นโยบายที่ชัดเจนของวอลโว่ ในการทำตลาดรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน รวมถึงการให้ความสำคัญในงานบริการหลังการขาย ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แบรนด์รถยนต์วอลโว่เติบโตขึ้นเท่าตัว “รถไฟฟ้า” ครองสถิติยอดจำหน่ายสูงสุดกว่า 80% จากยอดขายรวมทั้งหมด ตั้งเป้าโปรเจกต์ใหญ่ปีนี้ เปิดศูนย์ซ่อมและรีไซเคิลแบตเตอรี่ รวมถึงเปิดบริการ Smart Repair Service พร้อมส่งรถยนต์ไฟฟ้า และปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นใหม่ เปิดตัวเพิ่มขึ้น
ปีที่ผ่านมา นับเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัวทุกเซ็กเมนต์ ซึ่งถือเป็นปีที่ท้าทาย อย่างไรก็ดี วอลโว่สามารถปรับตัวและกำหนดเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์รถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด รวมทั้งการจัดกิจกรรมและบริการให้กับลูกค้าที่มากขึ้น
ในส่วนของไฮไลต์ปีที่ผ่านมา คือการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้า VOLVO EX30 ที่มีสัดส่วนถึง 40% ตามมาด้วย EC40 และ EX40 รุ่นละ 20% ขณะที่ขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด อย่าง XC60 และ XC90 ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยคิดเป็นสัดส่วน 20% รวมถึงการเติบโตของรถวอลโว่มือสองไมล์น้อยคุณภาพดี อย่าง Volvo Selekt Approved Used Cars ว่ามียอดจำหน่ายที่โตขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปี 2023
มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) และประเทศมาเลเชีย กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจกับผลลัพธ์ของปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งการเติบโตที่ต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์วอลโว่ และตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค แม้ว่าความท้าทายจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องมาในปี 2025 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับแบรนด์ของเรา โดยเราตั้งเป้าหมายการเติบโตของปี 2025 ที่ 5%”
“เราเชื่อว่า ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เรานำเสนอ ทั้งในส่วนของรถไฟฟ้า fully electric และรถปลั๊ก-อินไฮบริด จะยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภคต่อเนื่องไปในอนาคต อีกทั้งความพรีเมียมของแบรนด์ที่ทำให้ วอลโว่ คาร์ แตกต่าง และเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ส่วนเป้าหมายในปีนี้ วอลโว่ยังคงสานต่อผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถไฟฟ้าในอนาคต
โดยในไตรมาสแรก วอลโว่ได้วางแผนส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ อย่าง VOLVO EX90 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ให้แก่ลูกค้า โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ได้ถือเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ชิปในการประมวลผล ผ่านการทำงานของซอฟต์แวร์เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการให้ความปลอดภัย การเชื่อมต่อ และข้อมูล บนแพลตฟอร์มที่สามารถอัปเกรดเพื่อรองรับการใช้งานในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยังได้วางแผนจัดตั้งศูนย์ซ่อมและรีไซเคิลแบตเตอรี่ รวมถึงเปิดบริการ SMART Repair Service ซึ่งเป็นการบริการซ่อมความเสียหายขนาดเล็กและขนาดกลางที่เกิดขึ้นกับตัวรถ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของวอลโว่ แทนที่การเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชิ้น ซึ่งการซ่อมดังกล่าวใช้เวลาไม่นาน และมีราคาประหยัด จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการใช้รถ เพิ่มมูลค่าในการเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ต้องการนำเสนอให้แก่ผู้เป็นเจ้าของรถวอลโว่ทุกคน