‘เบนซ์’ ปรับโมเดลธุรกิจ ขายราคาเดียวกันทั่วไทย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เผยแนวคิดโมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” หวังพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีก ในปี 2024 สร้างบรรทัดฐานใหม่ จำหน่ายราคาเดียวกันทั่วไทย เผยช่วยลดต้นทุนการสต็อกรถให้ดีลเลอร์ ยกระดับบริการลูกค้าครอบคลุมในทุกมิติ
มร.มาร์ติน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวในงาน “Ambition for the Future” เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เผยแนวคิดของโมเดลธุรกิจใหม่ที่มีชื่อว่า “Retail of the Future” โดยเตรียมปรับใช้ในช่วงต้นปี 2024 ด้วยเป้าหมายหลักในการยกระดับมาตรฐานของธุรกิจค้าปลีกให้กับตลาดรถยนต์ระดับลักชัวรีในประเทศไทย
ทั้งนี้ ต่อไปราคาขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเป็นราคาเดียวกันทั้งหมด เพื่อเน้นความโปร่งใสของราคาและข้อเสนอจากผู้จำหน่ายที่ต้องเท่าเทียมกัน การจัดการความพร้อมของสต็อกรถยนต์ และการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ภายใต้มาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย โดยที่ผู้จำหน่ายจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในทุกขั้นตอนของการบริการลูกค้า นอกจากนี้ ในโมเดลธุรกิจใหม่ จะไม่ได้เน้นเพียงแค่การขายรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่จะส่งเสริมเครือข่ายการค้าปลีกของแบรนด์ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ
“รูปแบบการดำเนินธุรกิจจะเปลี่ยนไป เป็นการขายระหว่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยกับลูกค้า ราคาเดียวทั่วประเทศ ส่วนดีลเลอร์จะเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ให้บริการกับลูกค้าแทน ทั้งนี้ ประโยชน์ที่ดีลเลอร์ได้รับ คือลดการสต็อกรถ ลดต้นทุนของดีลเลอร์ในส่วนนี้ ขณะที่ลูกค้าสามารถได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนกันทั้งหมด เช่น ได้รับราคาเดียวกัน โปรโมชันเดียวกัน โมเดลนี้ได้เริ่มทำมาในหลายๆ ประเทศ กว่า 10 แห่ง ทั้งใน ยุโรป เยอรมัน อังกฤษ ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ อินเดีย และมาเลเซีย”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเริ่มใช้โมเดลธุรกิจอย่างเต็มระบบ ภายในไตรมาสแรกของปี 2024 หลังจากได้มีการเปลี่ยนสัญญากับดีลเลอร์ทั่วประเทศ จากเดิมที่มีการสั่งซื้อรถยนต์จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เป็นการบริการจัดการสินค้าให้บริษัทแทน ซึ่งดีลเลอร์จะได้คอมมิสชัน ได้โบนัสจากการส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าแทน ส่วนการบริการหลังการขายยังเหมือนเดิม