“เอ็กซ์ฟอร์ส” โมเดลเอชอีวี เปิดศึกชิงตลาด 3 รุ่น เริ่ม 8.99 แสน

สิ้นสุดการรอคอยของบรรดาแฟนๆ ชาวไทยกับ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ที่ค่ายมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางกรุง พร้อมท้าชิงคู่แข่งในตลาดคอมแพ็คเอสยูวี ชูไฮไลต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (HEV) ที่ให้ทั้งสมรรถนะและความประหยัด ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยี ครบครันด้วยฟังก์ชัน ต่อยอดความสำเร็จในตลาด วางจำหน่าย 3 รุ่น เคาะราคาเริ่มต้น 899,000 บาท ตั้งเป้ายอดจองล็อตแรก 3,000 คัน เริ่มส่งกลางเดือนพฤษภาคมนี้
กระแสของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากการเปิดตัวในตลาดอาเซียน ล่าสุดถึงคิวของประเทศไทย เมื่อ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เปิดตัวแนะนำคอมแพ็คเอสยูวี ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ที่ผลิตจากโรงงานผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ จ.ชลบุรี พร้อมตั้งเป้ายอดจองหลังการเปิดตัวไว้ที่ 3,000 คัน ก่อนเริ่มส่งมอบรถได้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568
ออล-นิว เอ็กซ์ฟอร์ส เป็นรถที่ถอดแบบมาจาก เอ็กซ์เอฟซี คอนเซ็ปต์ ที่เป็นต้นแบบให้เป็นรถคอมแพ็คเอสยูวีสำหรับผู้โดยสาร 5 คน ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเน้นการใช้เอสยูวีขนาดกะทัดรัด ภายใต้คอนเซปต์ “Best-suit buddy for a excitered life” โดยได้รับการออกแบบให้ดูมีสไตล์แต่ทรงพลัง ผสมผสานแนวคิด Silky & Solid ที่แสดงถึงความโปร่ง โล่ง ด้วยหลังคาแบบลอยตัว และเส้นสายที่ไหลจากด้านหน้าไปจนถึงด้านข้างและท้ายรถ
“นี่เป็นครั้งแรกที่ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุดของเรา และเราภาคภูมิใจที่รถยนต์รุ่นนี้ผลิตที่ประเทศไทย ณ โรงงานแหลมฉบังของเรา เราใช้เวลาหลายเดือนในการทดสอบรถยนต์รุ่นนี้ รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 100,000 กิโลเมตร ทั่วประเทศไทย”
“สำหรับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เราให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพและประสบการณ์การขับขี่เสมอมา และเราไม่เคยลดทอนมาตรฐานเหล่านี้เลยครับ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะเป็นโมเดลที่สร้างความตื่นเต้น และน่าประทับใจ พร้อมกับได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย” มร.เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดกำรใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนาจากระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (พีเอชอีวี) ดีไซน์ภายนอกให้ความโดดเด่น โฉบเฉี่ยว เปรียบสมือนยานยนต์ไอคอนนิคแห่งยุค มาพร้อมไฮไลต์ไฟหน้า ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED สี Smoked ในรูปแบบ T-Shape สะท้อนถึงความกว้างและความรู้สึกมั่นคงของตัวรถ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว เสริมด้วยซุ้มล้อที่เลือกใช้วัสดุและสีที่ตัดกับตัวรถ
ตัวห้องโดยสารถูกดีไซน์ให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ เสริมวัสดุที่ให้ความรู้สึกหรูหราพรีเมียม ภายในตกแต่งด้วยสีทูโทน บุด้วยผ้าแบบพิเศษกันน้ำ ลดคราบสิ่งสกปรก ตัวรถยังมาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เสียงไดนามิค ซาวด์ ยามาฮ่า พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium Sound System) ลำโพง 8 ตำแหน่ง ที่พัฒนาร่วมกับยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น, ระบบฟอกอากาศ nanoeTM X ที่จะช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย,ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) บริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านหน้า
เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ให้สมรรถะการขับขี่ที่เหนือชั้นและประหยัดน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยี MITSUBISHI e:MOTION ที่ผสานสามเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดของมิตซูบิชิ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ที่ทำงานผ่านมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ เสริมด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC) ที่ถือเป็นอีกไฮไลต์ของรถยนต์จากค่าย “มิตซูบิชิ”
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว MIVEC เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นแรก ระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle ใหม่ ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติตามการขับขี่และสภาพถนน ให้อัตราเร่งที่ดี และนุ่มนวล เสริมด้วยระบบความปลอดภัย Diamond Sense จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ADAS ที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถแบบ 360 องศา ทำงานอย่างแม่นยำ ผ่านการทำงานของกล้อง เรดาร์ และเซนเซอร์ มีมาครบครัน เบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
สำหรับ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Ignite ราคา 899,000 บาท, รุ่น Ultimate ราคา 1,039,000 บาท และรุ่น Ultimate X ราคา 1,089,000 บาท และนี่คือก้าวแรกของ ออล-นิว เอ็กซ์ฟอร์ส ที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้กับวงการยานยนต์เมืองไทย และพร้อมเป็นคู่แข่งท้าชิงตลาดคอมแพ็คเอสยูวี ภายใต้เทคโนโลยี MITSUBISHI e:MOTION ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ฟูลไฮบริด