“เอ็มจี” แจกกลยุทธ์ ไล่ล่าท็อปทรีตลาดรถ

เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จัดงาน MG DEALER CONFERENCE 2025 ส่งมอบทิศทางแบรนด์และกลยุทธ์การตลาดในประเทศไทย ตั้งเป้ายกระดับมาตรฐานงานขายและงานบริการ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงครบทุกเซ็กเมนต์ ล็อกเป้าขยับส่วนแบ่งทางการตลาด ไล่ล่าตำแหน่งท็อปทรีในตลาดรถยนต์
ในปีที่ผ่านมา ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยนับเป็นปีที่มีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคคนไทยมากขึ้น มาพร้อมความโดดเด่นที่หลากหลายมิติ ทั้งดีไซน์ นวัตกรรม และกลยุทธ์ด้านราคา ซึ่งประเทศไทยมีประมาณการการผลิตรถยนต์ที่ 1.6 ล้านคัน ส่งออก 1.05 ล้านคัน และจำหน่ายในประเทศ 550,000 คัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนให้ความสนใจและมีนัยยะสำคัญต่อการเติบโตของตลาดยานยนต์ นั่นคือ ปริมาณความต้องการรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังคงมีเพิ่มขึ้น
เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) หนึ่งในผู้นำตลาดยานยนต์ทางเลือก ขยับตัวจัดงาน MG DEALER CONFERENCE 2025 แถลงนโยบายและสร้างความมั่นใจให้กับผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงมอบรางวัล MG DEALER AWARD 2024 การันตีในคุณภาพให้กับผู้แทนจำหน่าย ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม
โดยในปีนี้ ค่ายเอ็มจี เตรียมนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 มีคิวเปิดตัวภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญเพื่อให้คนไทยอุ่นใจและสบายใจในการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเอ็มจี กับการเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ประกาศเพิ่มของการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งานเอกสิทธิ์สำคัญของแบรนด์ คลายความกังวลใจของลูกค้าเกี่ยวกับความทนทาน
ส่วนในด้านเครือข่าย เอ็มจี ได้มุ่งเน้นกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนโครงสร้างและการนำเสนอให้มีความทันสมัย ทันต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผ่านการปรับภาพลักษณ์โชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศให้มีรูปแบบเดียวกันกับ MG EVolution Showroom ซึ่งเป็นรูปแบบของโชว์รูมและศูนย์บริการ เอ็มจี ให้ดูทันสมัย
เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน
สำหรับด้านบริการหลังการขาย เอ็มจี พร้อมรับฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าตลอดเวลา โดยได้มีการวางแผนเพื่อเร่งยกระดับคุณภาพบริการ ปรับปรุงนโยบายหลังการขาย และทำให้การบริการหลังการขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดีและพึงพอใจมากยิ่งขึ้น เสริมภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นต่อกลุ่มเป้าหมายในอนาคต