“บีอีวี” แตะ 6 หมื่นคัน “อัตโต ทรี” เจ้าตลาด
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (บีวีอี) ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคและขยายสัดส่วนในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุดมียอดจดทะเบียนสะสมเดือนมกราคม-ตุลาคม รวมทั้งสิ้น 58,074 คัน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 11% จากยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน โดย บีวายดี อัตโต ทรี ครองสัดส่วนกว่า 30% ด้วยยอดจดทะเบียนมากกว่า 17,000 คัน
ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์หลังผ่าน 10 เดือน ยังคงชะลอตัว เนื่องด้วยปัจจัยหลายด้านที่ฉุดให้ตลาดไม่เติบโตเท่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ดี บรรดาค่ายผู้ผลิตยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงแคมเปญพิเศษที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค โดยมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (บีอีวี) เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นำทัพโดยค่ายผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีน ที่ตบเท้าเข้าร่วมชิงส่วนแบ่ง เพิ่มความร้อนแรงให้กับตลาดในช่วงที่ผ่านมา ตอกย้ำทิศทางของยานยนต์พลังงานทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในบ้านเรา นับตั้งแต่การเปิดตลาดอย่างเป็นรูปธรรม บวกกับความรู้ความเข้าใจของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สร้างการยอมรับและเพิ่มความพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อก้าวสู่ยานยนต์ในยุคถัดไป
จากทิศทางที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลังผ่าน 10 เดือน ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดย 10 อันดับแรกในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และยังคงเป็น บีวายดี ดอลฟิน ที่มียอดจดทะเบียนมากที่สุด จำนวนทั้งสิ้น 2,413 คัน เหนือกว่า บีวายดี อัตโต ทรี ที่รั้งอันดับ 2 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,427 คัน รองลงมาได้แก่ เนต้า วี จำนวนทั้งสิ้น 951 คัน ตามด้วย โอร่า กู๊ดแคท ในอันดับ 4 จำนวนทั้งสิ้น 641 คัน ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ เอ็มจี อีพี มีจำนวนทั้งสิ้น 608 คัน
ถัดมาได้แก่ เอ็มจีโฟร์ อิเล็กทริค ในอันดับ 6 มียอดจดทะเบียน 553 คัน ขณะที่ เทสล่า โมเดลวาย รั้งอยู่ในอันดับ 7 จำนวนทั้งสิ้น 281 คัน รองลงมาได้แก่ เอ็มจี แม็กซัสไนน์ ในอันดับ 8 มีจำนวนทั้งสิ้น 104 คัน ส่วนอันดับ 9 ได้แก่ เอ็มจี แซดเอส อีวี มีจำนวนทั้งสิ้น 96 คัน ปิดท้ายด้วย บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์ทรี ในอันดับ 10 มีจำนวนทั้งสิ้น 93 คัน
ด้วยการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากผู้บริโภค ส่งผลให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มียอดจดทะเบียนสะสมนับตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม รวมทั้งสิ้น 58,074 คัน คิดเป็น 10.58% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รย.1) ทั่วประเทศ ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 548,940 คัน หลังผ่าน 10 เดือนแรกของปีนี้
สำหรับยอดจดทะเบียนสะสมอันดับ 1 ยังคงเป็น บีวายดี อัตโต ทรี มีจำนวนทั้งสิ้น 17,351 คัน ครองสัดส่วน 29.88 % ตามด้วย เนต้า วี ในอันดับ 2 มีจำนวนทั้งสิ้น 10,245 คัน คิดเป็น 17.64 % รองลงมาได้แก่ เทสล่า โมเดลวาย ในอันดับ 3 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,034 คัน ครองสัดส่วน 8.67 % ตามด้วย โอร่า กู๊ด แคท ในอันดับ 4 จำนวนทั้งสิ้น 5,003 คัน คิดเป็น 8.61% ขณะที่ บีวายดี ดอลฟิน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,516 คัน 7.78%
เบียด เอ็มจี อีพี ลงมารั้งอันดับ 6 ครองสัดส่วน 6.40% ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 3,718 คัน ตามด้วยเพื่อนร่วมค่ายอย่าง เอ็มจีโฟร์ อิเล็กทริค ในอันดับ 7 มียอดจดทะเบียน 3,413 คัน ครองสัดส่วน 5.88% เหนือกว่า เทสล่า โมเดลวาย ที่รั้งอยู่ในอันดับ 8 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,851 คัน ครองสัดส่วน 3.19% ถัดมาได้แก่ เอ็มจี แซดเอส อีวี ในอันดับ 9 มีจำนวน 1,485 คัน คิดเป็น 2.56% ขณะที่ วอลโว่ เอ็กซ์ซี40 อีวี รั้งอันดับ 10 มีจำนวนทั้งสิ้น 938 คัน ครองสัดส่วน 1.62%
ด้าน บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์ทรี ยังคงเป็นรุ่นที่มียอดจดทะเบียนมากที่สุดของค่ายบีเอ็มดับเบิลยู มีจำนวนทั้งสิ้น 599 คัน คิดเป็น 1.03% ยังคงรั้งอยู่ในอันดับ 13 รวมถึง ปอร์เช่ ไทคานน์ ที่ยังคงนำทัพค่ายปอร์เช่ ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 210 คัน รั้งอยู่ในอันดับ 17 ตามด้วยตัวแทนจากค่ายมินิอย่าง คูเปอร์ เอสอี ในอันดับ 18 มีจำนวนทั้งสิ้น 185 คัน ขณะที่ค่ายเมอร์เซเดส ได้แก่ เมอร์เซเดส อีคิวเอส ที่รั้งอยู่ในอันดับ 24 ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 51 คัน
สำหรับทิศทางของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลังจากนี้ คาดว่ายังคงไปในทิศทางที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนผู้เล่นที่เข้าคิวรอทำตลาดในประเทศไทย ส่งผลให้สัดส่วนในตลาดอาจจะถูกลดทอนลงไป อย่างไรก็ดี จะยังคงผลักดันให้ตลาดเติบอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ทั้งยังมีโอกาสที่อาจจะลากยาวข้ามไปยังปีใหม่