เส้นทาง“ไฮบริด” ความหวัง’68 ตอบโจทย์ผู้ผลิต-ผู้บริโภค
ทิศทางของตลาดในปี 2568 รถไฮบริดจะเป็นคำตอบสำหรับผู้ผลิตและผู้บริโภค ด้วยความโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะ รวมถึงความสะดวกสบายและความเชื่อมั่นในคุณภาพ เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ขุมพลังทางเลือกอย่าง ไฮบริด ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ กระตุ้นการขยับตัวจากค่ายผู้ผลิต ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย
ด้วยสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ทั้งในด้านความประหยัด ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามทิศทางการนำเสนอยานยนต์ของค่ายผู้ผลิต ส่งผลให้ขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์ทั้งในมุมผู้บริโภคและผู้ผลิต
เนื่องด้วยความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งเป็นการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ถึงแม้จะเป็นรองรถพลังงงานไฟฟ้า 100% ในเรื่องของความประหยัด ทว่าสิ่งที่เหนือกว่าคือสามารถใช้งานได้ในวงกว้าง ไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จไฟฟ้า หากต้องใช้ออกทริปเดินทาง
รวมถึงระบบนิเวศน์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ยังไม่ครอบคลุมการใช้งาน สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค บวกกับกลยุทธ์ด้านราคาจากค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีน ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปให้ความสนใจรถไฮบริด และเลือกจับจองเป็นเจ้าของในช่วงเวลาที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นกระแสหลักของตลาดรถยนต์ในบ้านเรา
โดยในช่วงปีที่ผ่านมา รถไฮบริด ซึ่งเป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์ xEV ที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 40% ครองสัดส่วนในตลาดรถยนต์กว่า 37% นับเป็นทางเลือกที่ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากมีผู้บริโภคจำนวนมากที่ยังไม่พร้อมจะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ดังนั้น รถไฮบริด จึงเป็นทางออกและตัวเลือกที่ดีที่สุด
รวมถึงมุมของผู้ผลิตที่เดินหน้าเสริมทัพสร้างความแข็งแกร่ง เติมเต็มไลน์อัปไฮบริดอย่างต่อเนื่อง มาพร้อมทางเลือกที่หลากหลาย โดยขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด และ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา ทั้งจากค่ายญี่ปุ่น รวมถึงแบรนด์รถหรู ที่นำเสนอทางเลือกใหม่อย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะค่ายผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น ที่เดินหน้าทำตลาดด้วยทางเลือกดังกล่าว ซึ่งเป็นการขยับตัวรับกับทิศทางของตลาด สร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขาย ภายใต้ความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปโฉม รวมถึงสมรรถนะการใช้งานที่มีความน่าสนใจ และเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อม ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
จากทิศทางดังกล่าว ส่งผลให้รถไฮบริด ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญสำหรับตลาดรถในปี 2568 ซึ่งหลากหลายค่าย มีคิวเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในตลาดครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ รวมถึงในเซ็กเมนต์ใหม่ๆ ที่อาจจะมีให้เห็นกันมากยิ่งขึ้นในปีหน้า
สอดคล้องกับการสนับสนุนจากภาครัฐบาล หลังหมดโปรฯอีโคคาร์ ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงมาตรการกระตุ้นการลงทุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังไม่เย้ายวนมากพอ ดังนั้น รถไฮบริด จึงเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ค่ายผู้ผลิตมากที่สุด ในช่วงเวลาที่งบประมาณในการลงทุนค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน
แน่นอนว่า ค่ายญี่ปุ่น ที่ทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน จะเร่งเครื่องเสริมทัพด้วยรถไฮบริดรุ่นใหม่ๆ สร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขายหลังผ่านช่วงเวลาที่ตลาดรถผ่านจุดต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี โดยเชื่อว่าตลาดรถในปีหน้าจะยังคงประคองตัวอยู่ในระดับ 600,000 คัน
อยู่ที่ว่าภาครัฐบาลจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ไล่เลียงไปถึงสถาบันการเงินที่ค่อนข้างเข้มข้นในการพิจารณาสินเชื่อ โดยมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่ไม่รับการอนุมัติสินเชื่อเมื่อตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของรถสักคัน
อีกหนึ่งแรงผลักดันคือ มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งในด้านการลงทุนที่เป็นประโยชน์สำหรับค่ายผู้ผลิต รวมถึงการซัพพอร์ตต่างๆ ที่กระตุ้นการสินใจจับจองเป็นเจ้าของจากผู้บริโภค ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าในปี 2568 ยานยนต์ xEV จะยังคงสัดส่วนในตลาดราว 30% ของยอดขายในตลาดรถ โดยมีรถไฮบริด เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญ