คนในสังคม ฉบับ 1,098
หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,098 ประจำวันที่ 30 กันยายน-6 ตุลาคม 2567 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวคราวในแวดวง “คนยานยนต์” กับวังวนแห่งการค้นหาความสำเร็จของค่ายยานยนต์ ที่การจัดตั้งรัฐบาลคงไม่ช่วยให้อะไรโอเคขึ้น ตราบใดที่การเมืองยังเป็นเรื่องของการแบ่งเค้ก ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร วันนี้…ร้อยเอกจึงไม่กลัวพลเอก ถ้าไม่ใช่การเมืองก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้ให้ได้เห็นกัน สิ่งที่น่าเป็นห่วง…รัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน ท่ามกลางปัญหาเรื่องของจริยธรรม ที่ครอบครองไม่ใช่ครอบงำ เงินมหาศาลเพียงใดยังไม่เพียงพอกับความต้องการอำนาจ คนที่รับกรรมก็คือ ประชาชนคนไทยนั่นแหละ ขณะที่ “ค่ายยานยนต์” นั้น “รามอินทรา” ถามค่ายไหน คำตอบเหมือนกันหมด ไม่มียอดให้ค้นหา ถ้าตราบใดที่คนทำมาหากินยังยากลำบาก เรื่องความคิดที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์สักคันก็เป็นศูนย์ สงสารคนไทย สงสารประเทศไทย…*** “รามอินทรา” ค้นหาข่าวแรกมาเขียนให้อ่านกัน อยากเขียนข่าวดีๆ บ้าง ข่าวนี้น่าจะโอเคนะ “เนต้า วีทู” สไตล์ซิตี้คาร์ สนนราคาแค่ 5 แสนกว่าๆ “จิม เนต้า” ธิราพร ย้อนแสง โม้ให้ฟัง ถึงวันนี้ขายไปแล้วกว่า 4 พันกว่าคัน ก้อ…น่าจะเป็นรถไฟฟ้าที่เรื่อยๆ แต่ก็ขายได้ ในวันที่รถไฟฟ้าริบหรี่…*** อีกค่ายหนึ่งที่ “รามอินทรา” ยินดีด้วย เป็น “รถยนต์มาสด้า” ที่ “ไอ้หนุ่มหน้ามน” อุทัย เรืองศักดิ์ ค้นหาตัวเองเจอ เกือบ 100 คัน จากการเปิดบูธใน “เมกา บางนา” ก้อ…อย่างที่ “รามอินทรา” เขียนไว้แหละ พ.ศ.นี้ พึ่งพาใครไม่ได้ ก็ต้องพึ่งพาตัวเอง ใครที่ถามหา… “ไอ้หนุ่มหน้ามน” หายหน้าหายตาไปไหน ไม่ได้กลับไปเฝ้าไร่เรืองศักดิ์หรอกนะ ค้นหายอดจองรถมาสด้าเป็นงานหลัก…*** ยุคนี้เป็นยุคไฮบริด ก้อ…ไม่แปลกใจที่ “เสี่ยตัง” ยอดชาย ซื่อวัฒนากุล จะอวดยอดจองรถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และเอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ที่มาเงียบๆ แต่ไหลเรื่อยๆ ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไง ก้อ…แวะเข้าไปที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เดี๋ยวก็รู้…*** เขียนถึงการค้นหาตัวเลขยอดขาย “รามอินทรา” อดเหลียวไปมองค่ายยักษ์ใหญ่โตโยต้าไม่ได้ สิ่งที่ต้องยอมรับ วันนี้แตกต่างจากวันวานโดยสิ้นเชิง เส้นทางกับคนสื่อเหมือนไม่ใช่เส้นทางเดียวกัน ยิ่งการซัพพอร์ตยิ่งชัดเจน ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า…ทำให้ข่าวคราวของรถยนต์โตโยต้า ก้อ…ไม่ค่อยเหมือนวันวานด้วยเช่นกัน หรือว่า…นโยบายของยักษ์ใหญ่เปลี่ยนไป เพราะ “รามอินทรา” คุยกับพรรคพวก “คนสื่อ” ก้อ…เข้าใจตรงกัน…*** เมื่อเป็นเยี่ยงนี้…สถานการณ์ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 67 “รามอินทรา” ก้อ…คาดเดาไม่ถูกเหมือนกันว่า แวดวงยานยนต์เมื่อไหร่จะเป็นเช่นไร? หรือจะยอมรับ…ตัวเลขยอดขายคงได้แค่นี้แหละ เมื่อเศรษฐกิจและการเมืองยังไม่มีวี่เววว่า…จะทำให้คนไทยอยากซื้อรถยนต์ใหม่ หรืออยากซื้อก็ไม่มีเงินซื้อ เอ้า! ไหนมีคนบอกว่า…จะทำให้คนไทยอยู่ดีกินดี…*** แต่ที่ชัดเจน…น่าจะเป็นสินค้าเมดอินไชน่านี่แหละ ที่ยกพลเข้ามาทำลายธุรกิจคนไทย สงสัย…ต้องเปิดบ่อนตามนโยบายพรรคใครก็ไม่รู้ คนไทยจะได้อยู่ดีมีกิน ใช่มั้ยครับ คุณผู้ชม…*** ก่อนย่อหน้าสุดท้าย… “รามอินทรา” เป็นอีกแรงสนับสนุน ให้ทุกค่ายทุกคนสามารถค้นหาตัวเลขยอดจองเจอ แม้ว่าจะยากเย็นยิ่งกว่างมเข็มใยมหาสมุทร แต่ก็ไม่อยากให้ถอดใจ ด้วยอยากเห็นรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า แม้จะเป็นแค่รอยยิ้มบางๆ ก้อ…ถือว่าโอเคแล้ว…*** ย่อหน้าสุดท้าย…ในสถานการณ์เยี่ยงนี้ คงเป็นอีกบทพิสูจน์ของแวดวงยานยนต์ไทย เพราะตัวเลขยอดขายที่หดหายเหมือนจะย้อนหลังไปเป็น 10 ปีนั้น คงเป็นเรื่องเกินคาดคิด เมื่อต้นปี “รถไฟฟ้า” ยังทำท่าเหมือนจะจุดประกายแห่งความหวัง แต่เพราะวิถีแห่งธุรกิจที่แตกต่างจากวิถีของคนไทยนั่นเอง…*** ด้วยประการฉะนี้… “รามอินทรา” ยืนยันทุกสัปดาห์ “ยวดยาน” พร้อมเป็นสื่อกลางนำเสนอข่าวคราวความเคลื่อนไหวของทุกค่ายยานยนต์ มีอะไรส่งมาได้เลย พร้อมเสนอให้ความยินดีเป็นอย่างยิ่ง…*** พบกันใหม่ สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ