หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,102 ประจำวันที่ 28 ตุลาคม-3 พฤศจิกายน 2567 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวคราวในแวดวง “คนยานยนต์” กับวังวนแห่งความอึดอัดในการค้นหาตัวเลข ด้วยสถานการณ์ที่เป็นเหมือนไฟต์บังคับ เศรษฐกิจซึมกะทือ คนไทยเผชิญภาวะยากลำบาก ของก็แพง ขายของก็ยากแล้ว ใครจะมีตังค์มาจับจอง เพื่อเป็นเจ้าของรถใหม่กัน ยังไงก็เก็บเงินไว้ สบายใจกว่ากันเยอะเลย ก้อ…ไม่แปลกใจ ถ้าจะเห็นตัวเลขยอดจองไม่ได้สวยงามดั่งที่คิด เผลอๆ อาจเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปีนี้ก็ได้ ด้วยประการฉะนี้…เวลาที่เหลืออีกไม่ถึง 3 เดือน แต่ละค่ายยานยนต์คงต้องสาละวนกับการคิดค้นกลยุทธ์เพื่อให้ได้ตัวเลขเยอะที่สุด เหนืออื่นใด น่าจะเป็นการไม่เอื้ออำนวยของ “ลีสซิ่ง” ที่เซย์เยสยากมาก…*** “รามอินทรา” เปิดข่าวแรกกับการขยับตัวของ “ยักษ์ใหญ่โตโยต้า” กับคัมรี่ ไฮบริดเต็มร้อย ที่มีให้เลือกเป็นเจ้าของถึง 3 รุ่น น่าจะเป็นอีกตัวเลือกสำคัญ ที่นำเสนอโดย “โตโยต้า” ที่ทำให้ “รถไฟฟ้า” ต้องเหนื่อยออกแรงขึ้น…*** แต่ที่ “รามอินทรา” รู้สึกกังวล น่าจะเป็นด้วยสถานการณ์ที่กำลังเป็นวิกฤติ จะทำให้ตัวเลขไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์หรือไม่? ด้วยวันนี้…ตลาดรถยนต์ถือว่า…เงียบเหงาเกินคาดคิดจริงๆ ถึงยังไง “รามอินทรา” ก็ยังยกมือเชียร์ เพราะเชื่อในความเป็นคัมรี่ ไฮบริด ที่ใครเคยเป็นเจ้าของย่อมรู้ดีที่สุด…*** อีกเรื่องที่ไม่อาจมองข้าม…เป็นค่ายฮอนด้า ที่เลาะเล็มเรื่องรถไฮบริดมาเป็นระยะๆ และก็ประสบความสำเร็จในระดับที่โอเคเลยละ ถือเป็น 2 คันหัวแถวที่น่าจะทำให้ค่าย “รถญี่ปุ่น” สว่างจ้า แข่งกับรถไฟฟ้า ณ ประเทศจีน ที่ระยะนี้…เงียบเหงาลงไปนี้ดนึง…*** ค่ายนี้เหมือนไม่คึกคัก แต่ก็เรื่อยๆ มาเรียงๆ กลายเป็น… “ปิกอัพฝรั่ง” ที่มียอดขายเป็นเบอร์ 3 อย่างมั่นคง ไม่รู้ว่า “รามอินทรา” คิดถึงรถยนต์ฟอร์ดแบบไม่ตั้งใจ หรือคิดถึงคนเป็นประธานที่ชื่อ “ประธานต่อ” กันแน่…*** แต่คนนี้ “รามอินทรา” คิดถึงจริงๆ ตั้งแต่แถลงเรื่องจุดยืนของรถยนต์ซูซูกิ เหมือนข่าวคราวของ “เสี่ยลภ” วัลลภ ตรีฤกษ์งาม จะเงียบไปนี้ด แต่ก็ยังพออุ่นใจได้บ้าง ที่ยังไงรถยนต์ซูซูกิก็ยังอยู่ในเส้นทางประเทศไทย ยังมี “แฟนพันธุ์แท้” เชื่อมั่นและพร้อมจะเป็นเจ้าของ เพียงแต่ห้วงเวลา เป็นเวลาเก็บตังค์  ไม่ว่ารถยี่ห้ออะไร ก้อ…ล้วงเงินในเป๋าตังค์คนไทยได้ยากส์มาก มีอะไรก็กริ๊งกร๊างมาคุยกันได้นะครับ “เสี่ยลภ” …*** อีกคนที่ “รามอินทรา” คิดถึง อยากบอก “เสี่ยตังค์” ยอดชาย ซื่อวัฒนากุล ยังไม่ลืมสัญญาเรื่องรถยนต์มิตซูบิชิ ถือโอกาสเตือนความจำผ่านคอลัมน์ เพราะวันนี้หรือพรุ่งนี้ พร้อมที่จะนำเสนอให้แบบไร้ข้อแม้ โอเคนะครับ “เสี่ยตังค์” …*** คนนี้ไม่ต้องคิดถึง เพราะ “กุ้ง ก้ามโต” ภัทรา ธรรมวิญญู แจ้งข่าว “จันทร์ในนภา” จันทร์นภา สายสมร คงว่างมาก เลยไปเปิดปั๊มน้ำมันแก้เหงา แถวพุทธมณฑล 2 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ถือโอกาสโอมเพี้ยงให้มีคนเข้าไปใช้บริการล้นปั๊ม เผื่อจะได้หาที่เปิดใหม่อีกสักปั๊ม…กันว่าง โอเคมั้ย “กุ้ง” …*** จากคนรถยนต์ “รามอินทรา” เดินไปชนคนมอเตอร์ไซค์กันบ้าง เห็นหน้าผ่านๆ ลอยมาเป็น “เสี่ยเจมส์” ภาณุพล กิตติคำรณ น่าจะมาจากห้วงเวลานี้ “ไทยยามาฮ่า” ไม่มีเว้นวรรคเรื่องกิจกรรม ที่ใกล้ถึงน่าจะเป็นงานใหญ่โมโตจีพี ที่สนามช้างฯ บุรีรัมย์ นั่นแหละ ที่ “รามอินทรา” รู้สึกได้ถึงความคึกคักที่ลดลงจากวันวาน ชัดเจนยิ่ง…คือไม่สามารถดึงพลังมาสร้างสรรค์โอกาสได้เหมือนช่วงแรกๆ แต่ยังไงก็ถือว่า…เป็นอีกศักยภาพของประเทศไทยกับเกมความเร็วระดับโลก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับโอกาส…*** ก้อ…เป็นห้วงเวลาที่ต้องบอกเข้มข้นเป็นอย่างยิ่งของคนยานยนต์ เพราะทุกเวลามีความหมายต่อการค้นหายอดจอง มีอะไรที่คิดถึง “ยวดยาน” และ “รามอินทรา” ยังสามารถตอบสนองได้ ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องเกรงใจนะครับทุกคน…*** พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ