คนในสังคม ฉบับ 1,106
หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,106 ประจำวันที่ 25 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2567 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวคราวในแวดวง “คนยานยนต์” กับกระแสแห่งการค้นหาความสำเร็จ เรื่องยอดขายในสภาวะที่เศรษฐกิจยังตกสะเก็ด เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ที่ค่ายยานยนต์ต่างก็ต้องคิดค้นกลยุทธ์ที่จะทำให้สามารถก้าวไปสู่เป้าหมายได้ ซึ่งทุกวันเวลาที่เหลือของปี 67 จึงมีค่าเป็นอย่างยิ่ง วันนี้…เลยได้เห็นการขยับตัว ทั้งขยับเล็กและขยับใหญ่ สุดท้าย…ค่ายไหนจะก้าวไปถึงฝั่งฝัน เป็นเรื่องที่น่าคิดตามทั้งนั้น โดยมีงานใหญ่ในเดือนธันวาคม “มอเตอร์ เอ็กซ์โป” เป็นอีกศูนย์รวมความหวัง แต่จะหวังได้หรือหวังเหวิด ต้องติดตามและเป็นกำลังใจกัน สำหรับ “รามอินทรา” ยกมือเชียร์ให้ทุกค่าย ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพราะยังเชื่อว่า…ต้นทุนปี 67 จะเป็นเหมือนต้นทางที่ก้าวเดินของปี 68 นั้น เป็นต้นทางที่มั่นคงยิ่ง…*** “รามอินทรา” โฟกัสข่าวแรกกันที่ค่ายรถฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือบีเอ็มดับเบิลยู หรือวอลโว่ ที่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเยี่ยงไร? ก็ยังรักษาอาการไว้ได้ แค่แย่งกันเป็นเบอร์ 1 เท่านั้น ส่วนเบอร์ 3 ไม่มีใครแย่ง เป็นของวอลโว่ เพียงแต่ปีนี้…รู้สึกได้ว่าความคึกคักลดลง อาจเป็นด้วยสภาพเศรษฐกิจ ที่ส่งผลให้คนมีตังค์ไม่อยากขยับตัวอะไร แม้จะ…พอมีตังค์ซื้อรถใหม่ได้ ขณะที่ “นายฝรั่ง” ของแต่ละค่ายก็น่าจะโอเคแล้วละ เผลอๆ อาจเตรียมตัวกลับไปจิงกะเบลที่บ้านเกิดแล้วก็ได้…*** ชะแว้บที่ค่ายรถไฟฟ้า ค่ายหลักไม่ว่าจะเป็น เกรท วอลล์ หรือบีวายดี หรือเอ็มจี หรือเนต้า ที่ต้องยอมรับสถานการณ์ปีนี้เหนื่อยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้วยกลยุทธ์การลดราคา ที่แตกต่างจากรถน้ำมัน หรือแม้แต่การบริหารสไตล์ “คนจีน” ที่อาจแตกต่างจาก “คนญี่ปุ่น” ที่เข้าใจวิถีและวัฒนธรรมแห่งคนไทย ไม่ว่าจะเป็นคนขายหรือคนซื้อ ก้อ…ไม่รู้จะเป็นอีกส่วนผสมที่ทำให้ “รถไฟฟ้า” ไม่ส่องสว่างอย่างที่คาดหวังด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะ… “งบใช้จ่าย” ที่เป็นเหมือนลืมกุญแจตู้เซฟ…*** เมื่อผนวกกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ ที่ปีนี้…ย่ำแย่กว่าปีที่ผ่านๆ มา เป็นเรื่องที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า…นอกจากเวลาที่เหลือของปี 67 กับการก้าวสู่ปี 68… “รถไฟฟ้า” จะกลับมาสู่ความคึกคักเหมือนเช่นต้นการเปิดตลาดเมืองไทยหรือไม่? ก้อ…เป็นเรื่องที่น่าติดตามทั้งสิ้น…*** จากรถหรูสู่รถไฟฟ้า มาถึงคิวของรถน้ำมันเมดอินเจแปน “รามอินทรา” เพ่งมองไปที่ค่ายรถยนต์ฮอนด้า ที่ต้องบอกประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวรถไฮบริด แถมยังเก็บเกี่ยวยอดขายไปได้ไม่น้อย แต่ช่วงนี้เหมือนจะไม่ค่อยเป็นข่าว ไม่รู้ว่าจะเก็บไว้เติมความคึกคักในช่วงสุดท้ายปลายปี งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป หรือไม่ ก้อ…ถือเป็นอีกค่ายรถยนต์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง…*** อีกค่ายที่น่าสนใจ… “รามอินทรา” เพ่งตามองไปที่การเปิดตัวของรถยนต์มาสด้า CX-5 ที่ยังเป็นความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สกายแอกทีฟและเอกลักษณ์เฉพาะมาสด้า ก้อ…ต้องติดตามกันว่า…จะสามารถเก็บยอดสุดท้ายปลายปีได้ตามเป้าหมายหรือไม่? แค่สนนราคา “แฟนมาสด้า” ก็ไม่น่าจะอดใจไหวแล้วละ…*** อีกค่ายที่ “รามอินทรา” แอบคิดถึง…เป็นรถยนต์ซูซูกิ ที่วันนี้หลังการตัดสินใจเลิกโรงงานผลิตในเมืองไทยแล้ว ทำไมถึงรู้สึกเหมือนซึมๆ ไป หรือเป็นเพราะยังไม่มีรถใหม่ รถเด็ด มาเช็กยอดจอง ยังไงก็ยกมือเชียร์ให้ “เสี่ยลภ” วัลลภ ตรีฤกษ์งาม มีความสุขกับซูซูกิ เหมือนมีความสุขกับลิเวอร์พูลนะครับ…*** จากเรื่องยานยนต์ “รามอินทรา” ถือโอกาสแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการกับ “จันทร์ในนภา” จันทร์นภา สายสมร กับอีกเส้นทางการเปิดสถานีบริการน้ำมันครบวงจร บางจาก บลูมมิ่งเทลส์ พุทธมณฑลสาย 3 ก้อ…ขอให้เป็นอีกธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเคียงข้างกับ “ฟิล์มลามิน่า” ใครอยู่ย่านพุทธมณฑล แวะไปใช้บริการกันได้…*** ย่อหน้าสุดท้ายปลายคอลัมน์ “รามอินทรา” ฝากความห่วงใยถึงทุกคนยานยนต์ วันนี้อากาศเริ่มเข้าสู่งวังวนแห่งต้นหนาว เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน ยังไงก็ต้องดูแลตัวเองเยอะๆ รวมถึงอย่าลืมดูแลเงินในกระเป๋าตังค์ด้วย เดี๋ยวจะไม่มีเที่ยวในช่วงปีใหม่ที่กระชั้นชิดเข้ามาแล้ว รวมถึง…ต้องดูแลรถยนต์ไว้แต่เนิ่นๆ เพราะเป็นอีกช่องทางการใช้เงินเลยละ…สุขภาพแข็งแรง เงินทองแข็งตัวนะครับ…*** พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ