จอ…จ่อ…จ้อ…564 ชีวิต…ของคนไทยวันนี้ สถานการณ์…ที่ยากลำบาก เศรษฐกิจ…ที่ตกสะเก็ด
“รามอินทรา” เจอะเจอคนมากหน้าหลายตา ทั้งคนหาเช้ากินค่ำ ทั้งคนเงินเดือนมีงานประจำ ต่างพูดเป็นเรื่องเดียวกันว่า…เศรษฐกิจวันนี้อาการโคม่ามาก พ่อค้าแม่ขาย…ขายของไม่ได้ดั่งใจ บางคนบอกว่าช่วงเจอะเจอโควิด-19 ยังไม่สาหัสเท่ากับวันนี้ คนขายแทบไม่เหลือเงินไว้ซื้อของ คนซื้อก็แทบไม่มีเงินมาซื้อของ แถมข้าวของยังขึ้นราคาอีกต่างหาก ก้อ…ขนาดกล้วยแขกยังขอขึ้นราคาด้วยเหตุผล…กล้วยน้ำว้าขึ้นราคา ไม่อยากเชื่อ…กล้วยน้ำว้าที่เมื่อวันวานนั้น เป็นของกินสำหรับคนยากคนจน ไม่มีอะไรกินก็ได้กล้วยน้ำว้านี่แหละรองท้อง เคยไปซื้อกล้วยน้ำว้า เพื่อเอามาไหว้องค์พิฆเนศ เชื่อมั้ย…หวีละ 60 บาท เผลอๆ มี 80 บาท ถ้าอยากได้หวีสวยๆ ลูกโตๆ เลยไม่ค่อยแปลกใจ กับเสียงบ่นของคนขาย เพราะ “รามอินทรา” นั้นเป็นคนเดินตลาดอยู่แล้ว
เรื่องที่น่าสนใจ…วันนี้…เค้าบอกว่า ยากลำบากกว่าช่วงที่โควิด-19 ทำให้อดคิดถึงวันที่ “นักการเมือง” หาเสียงกัน จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี พอเลือกตั้งเสร็จไม่เห็นประชาชนอยู่ดีกินดีเลย แถมนโยบายที่หาเสียงไว้ก็ไม่เห็นจะทำอะไร? มีแค่นโยบายจะแจกเงิน จะกอบโกยเงินเข้ากระเป๋า ที่ยืนเรียงหน้ามอมๆ นั้น ยังไม่เคยเห็นทำให้เมืองไทยหรือคนไทยอยู่ดีกินดีเลย นอกจากวงศาคณาญาติ…ของพวกมันอยู่ดีกินดีทั้งนั้น น่าจะเป็นเวรกรรมของคนไทยที่มีนักการเมืองพันธุ์นั้น ก็อย่าแปลกใจที่จะเห็นพ่อค้าแม่ขาย หน้าตาซีดเซียว เพราะค้าขายแล้วแทบไม่เหลือทุนเหลือกำไร แถมข้าวของก็ขึ้นราคา โดยไม่มีวี่แววว่าจะมีนักการเมืองคนไหน โผล่มาออกเสียงรับผิดชอบ
อีกเรื่องหนึ่งที่ “รามอินทรา” สังเกตเห็น ร้านขายยาหรือโรงพยาบาลนั้น คนเยอะมาก ใครมีตังค์ก็ไปโรงพยาบาล ใครมีตังค์น้อยก็พึ่งพาร้านขายยา ที่จ่ายน้อยกว่า หายหรือไม่หาย ค่อยว่ากันทีหลัง ขณะที่โรงพยาบาลรัฐ คนเข้าคิวรอพบหมอเป็นชั่วโมงๆ แต่เจอหมอไม่ถึง 10 นาที ก็ได้ยามากิน พร้อมใบนัดครั้งต่อไป เหมือนเป็นวัฎจักร เมื่อไม่มีเงินพอที่จะรักษาโรงพยาบาลเอกชน เพราะสนนราคาเลือดออกซิบในแต่ละครั้งที่ไปหาหมอ ด้วยเหตุนี้…การดูแลตัวเอง ดูแลการเป็นอยู่ เป็นอีกทางออกของการหลีกเลี่ยงโรคภัยไข้เจ็บ การไม่มีโรคยังไงก็น่าจะดีกว่าไม่มีสตังค์ เพราะยังไงก็ยังจะหยิบยืมกันได้ แต่เรื่องโรคภัยของใครของมัน ยังไงก็ต้องแบกไว้
เมื่อเป็นเยี่ยงนี้…ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจตกสะเก็ด ยังไงก็ต้องประคับประคองตัวเอง อย่าได้ตกงานโดยเด็ดขาด และอย่าได้คิดเข้าข้างตัวเองว่า…ไม่มีใครทำอะไรเราได้ คงไม่มีใครยอมให้ใครมาเอาเปรียบ ไม่อายเพื่อนก็น่าจะอายตัวเองบ้าง ที่ไม่ยอมเคารพกติกาของคนเงินเดือน ตกงานวันไหนจะรู้สึกถึงความยากลำบาก
นี่เป็น “รามอินทรา” จอ…จ่อ…จ้อ ประจำสัปดาห์นี้ ที่หยิบเอาเรื่องใกล้ตัวมาเขียนให้อ่านกัน
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
4 กันยายน 2567