“ตลาดรถหรู” ยอดโต ปี 64 รวม 25,186 คัน
ภาพรวมตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทย ปิดไตรมาสสุดท้ายเติบโต อ้างอิงจากตัวเลขยอดจดทะเบียนจากกรมขนส่งทางบก ปีนี้ปิดยอดรวมทั้งสิ้น 25,186 คัน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์และความไว้วางใจในตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มประเภทรถยนต์พรีเมียม-ลักชัวรี
ตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียม-ลักชัวรี แม้ขนาดตลาดจะไม่ใหญ่นัก แต่ต้องถือว่าเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งและมีภูมิคุ้มกันสูง ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ เหมือนตลาดในเซ็กเมนต์อื่นๆ ที่ค่อนข้างอ่อนไหว เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสวิด-19 และสภาพเศรษฐกิจที่แปรปรวน
โดยปีนี้ตลาดรถยนต์พรีเมียมนั้นยังคงเติบโตขึ้นในแต่ละแบรนด์ เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู อาวดี้ ปอร์เช่ วอลโว่ ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคจากการผลิต เพราะปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน ทั้งรถนำเข้าและรถที่ประกอบในประเทศ แต่ยังประคองตัวทำยอดขายได้ดีขึ้นกว่าปี 2563
จากการเปิดเผยตัวเลขจดทะเบียนของกรมการขนส่งทางบก ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รย.1) หลังจบ 12 เดือน ของปี 2564 พบว่า บีเอ็มดับเบิลยูมียอด 9,982 คัน (ไม่รวม มินิ) ขณะเมอร์เซเดส-เบนซ์ มียอดจดทะเบียน 9,817 คัน ตามมาด้วยปอร์เช่ มียอดอยู่ 1,607 คัน ถัดมาเป็นวอลโว่ มียอดที่ 1,553 คัน ส่วน อาวดี้ และมิน มียอดอยู่ที่ 1,177 คัน และ 1,050 คัน ตามลำดับ
มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ความสำเร็จในไตรมาสที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าชาวไทยทั่วประเทศที่มีต่อแบรนด์ของเรา ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งมั่นที่เรามีให้กับตลาดในประเทศไทยมาโดยตลอด ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ที่โรงงาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 10.4%
ขณะที่ มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สัญญาณต่างๆ ในไตรมาสสุดท้ายเริ่มดีขึ้น ทั้งการที่รัฐบาลแสดงความชัดเจนถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงยอดจองรถใหม่เพิ่มขึ้น และการที่ดีลเลอร์สั่งรถเข้ามาในสต็อกอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าไตรมาสที่ 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดสำหรับการขายรถเมอร์เซเดส-เบนซ์
พร้อมกันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ยังเตรียมจัดงานแถลงข่าวถึงผลงานปี 2564 ถึงทิศทางและกลยุทธ์ของบริษัทที่จะมุ่งไปในปี 2565 ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ โดยกิจกรรมทางการตลาดช่วงต้นปี เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงมุ่งไปที่รถพลังงานไฟฟ้า อีวี รุ่นอีคิวเอส และเอส-คลาส ปลั๊ก-อินไฮบริด S 580 e รุ่นประกอบในประเทศนั่นเอง