“ทาทา มอเตอร์ส” คัมแบ็ก ตั้ง “อินช์เคป” ปลุกตลาด
ทาทา มอเตอร์ส แท็กทีม อินช์เคป พีแอลซี เดินเครื่องทำตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อีกครั้งในประเทศไทย พร้อมนำเสนอยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้ากลุ่มโลจิสติกส์และการขนส่งมวลชน วางเป้าประเดิมเปิดตัวแทนจำหน่าย 10 แห่งทั่วประเทศไทย
ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของอินเดีย อย่าง ทาทา มอเตอร์ส กลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง โดย มร.อนุรักษ์ เมห์โรทรา รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศและกลยุทธ์ ธุรกิจรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของ ทาทา มอเตอร์ส ได้กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายที่มีชื่อเสียง อย่าง อินช์เคป บริษัทดังกล่าวมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญอันยาวนาน รวมถึงมีความเข้าใจอย่างแท้จริงในอุตสาหกรรมยานยนต์ ตลอดจนการดำเนินธุรกิจทั่วเอเชียแปซิฟิก เรามีความมั่นใจว่าการทำงานร่วมกับอินช์เคป จะทำให้โซลูชันการขนส่งขั้นสูงมีคุณภาพดีที่สุดของ ทาทา มอเตอร์ส ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในประเทศนี้”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทาทา มอเตอร์ส ได้สร้างเกณฑ์มาตรฐานใหม่สำหรับประสิทธิภาพต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของที่ต่ำที่สุด สร้างฟังก์ชันการทำงาน การเชื่อมต่อ และความปลอดภัย ผ่านการนำเสนอยานยนต์ บริการและโซลูชันที่พร้อมสำหรับอนาคตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ข้อตกลงนี้เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญในการขยายตลาดของแบรนด์ทาทา ในประเทศไทย เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในท้องถิ่นที่ต้องการสร้างเสริมกลุ่มยานพาหนะสำหรับการขนส่งระยะสั้นและระยะไกล
ด้าน มร.รัสลัน ไคเนบาส ซีอีโอประจําภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของอินช์เคป กล่าวว่า “เรามองเห็นโอกาสที่ดีในการใช้ประโยชน์จากสถานะและเครือข่ายที่มีอยู่ของอินช์เคป เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทยและมอบประสบการณ์การเดินทางที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้า นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของกลยุทธ์ Accelerate ของเราในการดำเนินการ ซึ่งส่งมอบตามความปรารถนาอันแรงกล้าของกลุ่มบริษัท ในการขยายขอบเขตบริการที่มีอยู่ทั่วโลกและการเป็นผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ทางเลือก”
โดย ทาทา มอเตอร์ส พร้อมนำเสนอยานพาหนะบรรทุกสินค้าที่ขนาดต่ำกว่า 1 ตัน ถึง 55 ตัน รวมถึงโซลูชันการขนส่งมวลชนขนาด 10 ที่นั่ง ถึง 51 ที่นั่งที่หลากหลาย โดยมีทั้งรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กและรถกระบะ, ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็ก, ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ และกลุ่มรถโดยสาร เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของกลุ่มโลจิสติกส์และการขนส่งมวลชน