“บีที-50” ดัมป์ราคา 3 รุ่น ลดสูงสุด 1.62 แสนบาท
มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ขยับตัวกระตุ้นยอดขาย พร้อมพลิกฟื้นผู้ประกอบการ ปล่อยแคมเปญมอบส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้ารถกระบะ บีที-50 ภายใต้ 3 รุ่นย่อย ทั้งในบอดี้ Freestyle Cab (FSC) และ Double Cab (DBL) ลดสูงสุดถึง 162,000 บาท จำนวนจำกัด ตั้งแต่ 1-31 สิงหาคมนี้
เจเนอเรชันล่าสุดของ มาสด้า บีที-50 เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2564 ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับอีซูซุ โดยปูพรมลงทำตลาดทั้งสิ้น 14 รุ่นย่อย ภายใต้ 3 รูปแบบตัวถัง ได้แก่ รุ่น Standard Cab (STD) หรือกระบะตอนเดียว, รุ่น Freestyle Cab (FSC) หรือกระบะตอนครึ่งแค็บเปิดได้ และรุ่น Double Cab (DBL) หรือรุ่น 4 ประตู ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้บริโภคในยุคปัจุบัน
ทว่า ด้วยวิกฤติโควิด-19 ส่งผลโดยตรงต่อยอดจอง โดยเฉพาะบรรดาผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักสำหรับรถกระบะค่ายมาสด้า ที่ได้รับผลกระทบจากช่วงเวลาดังกล่าว ล่าสุด มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ขยับตัวหวังกระตุ้นยอดขาย รวมถึงซัพพอร์ตผู้ประกอบการให้สามารถพลิกฟื้นธุรกิจด้วยแคมเปญพิเศษสำหรับ 3 รุ่นย่อย ภายใต้บอดี้ Freestyle Cab และ Double Cab
ประกอบด้วย รุ่น FSC 1.9 C Hi-Racer MT ซึ่งลดราคาจาก 714,000 บาท ลงมาอยู่ที่ 589,000 บาท รวมถึงรุ่น FSC 1.9 S Hi-Racer MT เคาะราคาขาย 659,000 บาท จากราคาเดิม 787,000 บาท ปิดท้ายด้วยรุ่น DBL 1.9 S Hi-Racer MT ที่ลดราคาจาก 891,000 บาท ลงมาอยู่ที่ 729,000 บาท จำนวนจำกัด ระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม นี้
สำหรับ ออล-นิว มาสด้า บีที-50 โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่คุ้นตา เสริมความพรีเมียมด้วยวัสดุโครเมียม สอดรับกับโคมดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมซิกเนเจอร์วิงส์และไฟหน้า LED รูปทรงกระบอก เติมความแข็งแกร่งด้วยกันชนหน้ารูปทรงบึกบึน พร้อมไฟตัดหมอกรูปทรงตั้ง เพิ่มมิติให้กับตัวรถด้วยสันคมด้านข้างตัวรถที่ลากยาวจากบริเวณเหนือซุ้มล้อไปสอดรับกับไฟท้าย
รวมถึงส่วนเว้าบริเวณชายประตู เสริมทรวดทรงให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจกมองข้างทูโทน รวมถึงมือจับประตูโครเมียม ด้านท้ายลงตัวด้วยกันชนขนาดกำลังพอดี ส่วนกระบะท้าย เพิ่มมิติด้วยเส้นคมและส่วนเว้า สอดรับกับโคมไฟท้ายรูปทรงกระบอกเช่นเดียวกับไฟหน้า มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 เหนือกระจกหลัง ขณะที่ล้ออัลลอยมีลวดลายที่ต่างกันในรุ่น 4 และ 2 ประตู
โครงสร้างตัวถังผลิตขึ้นจากเหล็กกล้าที่ทนต่อแรงดึงสูง แข็งแกร่งกว่าเหล็กธรรมดา เพิ่มความปลอดภัยและลดการสั่นสะเทือน รวมถึงเสียงรบกวนจากภายนอก ทั้งยังเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น กับคอยล์สปริง ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มสบาย ซับแรงกระแทกที่จะเข้าสู่ห้องโดยสาร พร้อมเหล็กกันโคลงหน้า ช่วยเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัว ชุดแหนบด้านหลังที่เพิ่มความสามารถในการบรรทุก
ภายในห้องโดยสารเน้นความประณีต คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน เสาภายในและเพดานใช้โทนสีดำตัดกับหนังสีน้ำตาลเข้มของเบาะนั่ง และแผงประตูที่หรูหราในสไตล์รถเอสยูวี จัดวางโดยยึดผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง จึงง่ายต่อการใช้งาน มาพร้อมหน้าจอแบบสี MID ขนาด 4.2 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลได้หลายรูปแบบ อ่านง่าย มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบ TFT เพิ่มสะดวกสบายด้วยพวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
มีให้เลือก 2 ขุมพลัง ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบหัวฉีดน้ำมันแรงดันสูง 250 MPa ถูกวางอยู่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถปรับเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ และเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร วางอยู่ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งเครื่องยนต์ทั้ง 2 ขนาด รองรับน้ำมันได้ถึง B20
ระบบส่งกำลังของ ออล-นิว มาสด้า บีที-50 มี 2 ทางเลือก ได้แก่ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ตอบสนองการใช้งานภายใต้ 3 รูปแบบตัวถัง ได้แก่ รุ่น Standard Cab (STD) หรือกระบะตอนเดียว ที่จะช่วยให้การบรรทุกหนักเป็นเรื่องง่าย, รุ่น Freestyle Cab (FSC) หรือกระบะตอนครึ่ง รุ่นแค็บเปิดได้ ที่ตอบรับทุกการใช้งาน และรุ่น Double Cab (DBL) หรือรุ่น 4 ประตู ที่ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย ซึ่งได้ติดตั้งระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย