“พีพีวี” ขายทะลุ 4 หมื่น “ฟอร์จูนเนอร์” ครองเบอร์ 1
ภาพรวมของตลาดพีพีวีหลังผ่าน 10 เดือน มียอดขายสะสมทั้งสิ้น 40,334 คัน โดย โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ด้วยยอดขาย 18,066 คัน ครองสัดส่วน 44.8% ตามด้วย อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ที่เก็บยอดขายไปได้ 12,715 คัน คิดเป็น 31.5% จากยอดรวมในเซ็กเมนต์ดังกล่าว
ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ยังคงเป็นหนึ่งทางเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ด้วยสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หลากหลาย ภายใต้รูปโฉมและความโดดเด่นที่แตกต่างกันไปของแต่ละแบรนด์ในแต่ละเซ็กเมนต์ ส่งผลให้มีตัวเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้นทั้งในกลุ่มเอสยูวี, เอ็มพีวี รวมถึงพีพีวี ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันของ 2 ค่ายอย่าง โตโยต้า และอีซูซุ
โดย โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ส่งรุ่นล่าสุดอย่าง GR Sport ลงสู่ตลาดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของรถในตระกูลพีพีวี ค่ายโตโยต้า ซึ่งได้รับการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกับรถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ นำเอาประสบการณ์และความรู้ทางเทคนิค จากการเข้าร่วมทดสอบสมรรถนะยานยนต์ในสนามแข่งขันทั่วโลกผ่านแบรนด์รถแข่งระดับโลกอย่าง โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ยกมาตรฐานขึ้นไปสู่อีกระดับของรถพีพีวี
เสริมความแข็งแกร่งในเซ็กเมนต์ดังกล่าวร่วมกับรุ่นก่อนหน้าในตลาดอย่าง ฟอร์จูนเนอร์ Legender ในบทบาทของพรีเมียมพีพีวี รวมถึงรุ่นมาตรฐานที่อัพเกรดด้วยกล้องมองรอบคันในรุ่น V และชุดแต่ง Modellista ที่ได้รับการออกแบบจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา มีเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง สร้างความโดดเด่นและพรีเมียมมากยิ่งขึ้น
จากการขยับตัวดังกล่าวส่งผลให้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ยังครองตำแหน่งผู้นำตลาดพีพีวีหลังผ่าน 10 เดือนของปี 2565 ด้วยตัวเลขยอดขายสะสมทั้งสิ้น 18,065 คัน จากภาพรวมของเซ็กเมนต์ดังกล่าวที่มียอดขายสะสม 40,334 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 44.8% ตอกย้ำการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม สามารถเก็บเกี่ยวยอดขายได้มากถึง 2,079 คัน ครองส่วนแบ่งกว่าครึ่งของยอดขายในเดือนดังกล่าว
เหนือกว่าคู่ปรับอย่าง อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ที่เปิดตัวรุ่นล่าสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 เพิ่มความสดใหม่ด้วยตัวรถที่มาพร้อมชุดระบบความปลอดภัยในกลุ่ม ADAS เพิ่มฟังก์ชันใหม่เป็นระบบ Turn Assist with AEB ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางในขณะเลี้ยวขวา นอกจากนี้ อีซูซุยังเพิ่มฟังก์ชัน เตือนการรับบริการ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการเข้ารับบริการหลังการขาย
โดยอีซูซุ สร้างโอกาสคว้ายอดขายและเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย 7 รุ่นย่อย มาพร้อมการตอบรับที่ดีจากแฟนอีซูซุ เดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำนับตั้งแต่ต้นปี ก่อนจะโดนพิษโควิดเล่นงานส่งผลให้ยอดขายแผ่วลงไปในเดือนตุลาคม ด้วยยอดขายทั้งสิ้น 889 คัน ส่งผลให้อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ รั้งอยู่ในอันดับ 2 ด้วยยอดขายสะสมทั้งสิ้น 12,715 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 31.5%
ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ มิตซูบิชิ ปาเจโร ที่ขยับตัวครั้งล่าสุดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ด้วยรุ่นพิเศษ Special Edition ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ที่อัปเกรดด้วยอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษสีดำทั้งหมด ได้แก่ กระจังหน้ารถ, ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว, ชุดตกแต่งใต้กันชนหน้า-หลัง และราวหลังคา โดย มิตซูบิชิ ปาเจโร เก็บยอดขายไปแล้ว 5,096 คัน ครองสัดส่วน 12.6% ในเซ็กเมนต์ดังกล่าว
รองลงมาได้แก่ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ที่อยู่ในช่วงปลายโมเดล และเตรียมที่จะเปิดตัวเจเนอเรชันใหม่ในไตรมาสแรกของปีนี้ คาดว่าจะเป็นในช่วงบรรยากาศของงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ โดยเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายให้กับต้นสังกัดได้ หลังจากที่เก็บเกี่ยวยอดขายไปแล้ว 3,836 คัน ครองส่วนแบ่ง 9.5% ขณะที่ นิสสัน เทอร์ร่า ที่มาพร้อมโฉมล่าสุดยังตามห่างๆ ด้วยยอดขาย 662 คัน ถือส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 1.5%
โดยเชื่อว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงฝากไว้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส 2019 ที่ยังคงเป็นประเด็นหลักในสังคม และเป็นตัวแปรที่สำคัญในการขยับตัวของค่ายผู้ผลิต ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์และการเดินเกมทางการตลาด รวมถึงการตัดสินใจจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่อาจจะชะลอการใช้เงินอีกครั้ง หากภาพรวมของการแพร่ระบาดยังคงเดินไปในทิศทางลบอย่างต่อเนื่อง
ยอดขายรถยนต์อเนกประสงค์พีพีวี เดือนมกราคม-ตุลาคม 2021 รวมทั้งสิ้น 40,334 คัน
อันดับ 1 โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 18,065 คัน (ส่วนแบ่งตลาด 44.8%)
อันดับ 2 อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 12,715 คัน (ส่วนแบ่งตลาด 31.5%)
อันดับ 3 มิตซูบิชิ ปาเจโร 5,096 คัน (ส่วนแบ่งตลาด 12.6%)
อันดับ 4 ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3,836 คัน (ส่วนแบ่งตลาด 9.5%)
อันดับ 5 นิสสัน เทอร์ร่า 622 คัน (ส่วนแบ่งตลาด 1.5%)