“ฟอร์ด” ครองเบอร์ 4 เสริมรถใหม่หวังเพิ่มแชร์
ฟอร์ด ประเทศไทย ครองอันดับ 4 ยอดขายสูงสุดในตลาดรถยนต์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ปิดยอดขายประจำปีที่ 36,483 คัน ลดลง 16% จากปีก่อนหน้า ทว่ายังคงอยู่ในทิศทางที่ดีกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน หวังเพิ่มสัดส่วนในตลาดรถกระบะและพีพีวี
ด้วยความเป็นตัวตนที่ชัดเจนของค่ายฟอร์ด ที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปโฉม รวมถึงสมรรถนะการใช้งานของรถกระบะประจำค่ายอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ รวมถึงทางเลือกในตลาดพีพีวีอย่าง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สามารถกระตุ้นความต้องการและเก็บเกี่ยวยอดขายในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวเจเนอเรชันล่าสุดในตลาดประเทศไทย พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด นับตั้งแต่การเข้ามาของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
ด้วยทิศทางอันยอดเยี่ยมของแบรนด์ฟอร์ด ส่งผลให้สามารถเดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง สร้างการเติบโตให้กับค่ายยานยนต์สัญชาติอเมริกัน โดยในปีที่ผ่านมาเก็บยอดขายไปได้ทั้งสิ้น 36,483 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้า 16% ครองอันดับ 4 ในตลาดรถยนต์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของแบรนด์ฟอร์ดที่สามารถขยับขึ้นมารั้งอันดับดังกล่าว นับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
โดย นายรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวถึงความสำเร็จของฟอร์ด ว่า “ถึงแม้ว่าฟอร์ดจะทำตลาดเฉพาะรถกระบะและพีพีวี ทว่าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ส่งผลให้ได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากลูกค้า หลังการเปิดตัวเจเนอเรชันล่าสุดของ ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ในตลาดประเทศไทย ผลักดันให้ ฟอร์ด สามารถเพิ่มสัดส่วนในเซ็กเมนต์ดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง”
สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ สามารถขยายสัดส่วนในตลาดรถกระบะจาก 8.5% เพิ่มเป็น 9.2% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ขยับส่วนแบ่งในตลาดพีพีวี จาก 14% เพิ่มเป็น 19% แสดงถึงทิศทางที่ยอดยี่ยมของแบรนด์ฟอร์ด ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดินหน้าทำตลาดเฉพาะในกลุ่มรถกระบะและพีพีวี ทั้งยังสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยรถกระบะไฮเอ็นด์อย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่เก็บเกี่ยวยอดขายไปกว่า 2,600 คันในปีที่ผ่านมา
ส่วนทิศทางของตลาดในปีนี้ ฟอร์ด ประเทศไทย มองว่ายังมีโอกาสที่จะขยายสัดส่วนในตลาด เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจที่คาดว่าจะก้าวเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลโดยตรงต่อการลงทุนรวมถึงสร้างงานสร้างอาชีพ ซึ่งรถกระบะยังคงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ของบรรดาผู้ประกอบการ ด้วยความอเนกประสงค์และใช้งานได้อย่างหลากหลาย จะผลักดันให้ตลาดสามารถขยายตัวได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ซึ่งค่ายฟอร์ด มีแพลนที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปด้วยรถรุ่นย่อยใหม่ ที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงรถรุ่นพิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีความต้องการที่หลากหลายในยุคปัจจุบัน โดยเชื่อว่าเมื่อภาพรวมทางเศรษฐกิจสามารถก้าวเดินไปในทิศทางที่ดี จะเป็นแรงผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยเช่นกัน
หัวเรือใหญ่ค่ายฟอร์ด มองว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ราว 830,000-840,000 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ในปีที่ผ่านมา ซึ่ง ฟอร์ด ประเทศไทย เตรียมที่จะเสริมทัพด้วยรถรุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันไป ทั้งในตลาดรถกระบะและพีพีวี โดยมองว่ายังมีช่องทางสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเข้ามาเติมเต็มไลน์อัป รวมถึงลบจุดบอดที่ฟอร์ด ยังไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่วางไว้
ฟอร์ด ประเทศไทย หวังที่จะขยับสัดส่วนในตลาดรถกระบะเพิ่มขึ้น 1% ในปีนี้ และ 3% สำหรับตลาดพีพีวี โดยมองว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์จะเดินทางไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ที่ยังชะลอการตัดสินใจและจับจ่ายใช้สอยในปีที่ผ่านมา