“มาสด้า” ปรับทัพใหญ่ ดันคนรุ่นใหม่เสริมแกร่ง
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ขยับตัวปรับทัพผู้บริหาร สร้างความแข็งแกร่งเพิ่มความคล่องตัว รองรับภูมิทัศน์ทางธุรกิจใหม่ในอนาคต จัดทัพทีมผู้บริหารคนไทยเติมความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับแบรนด์ ส่งมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าในทุกมิติ สอดรับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ที่จะเข้ามาเสริพทัพในปีนี้
จากภาพรวมทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ในปัจจุบัน ส่งผลให้หลายองค์กรต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ที่ปรับทัพผู้บริหาร เพื่อพัฒนาธุรกิจให้สามารถเดินหน้าและเติบโต การจัดการบริหารองค์กรและการพัฒนาองค์กรยุคใหม่ให้เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่แต่ละองค์กรโฟกัสและใส่ใจมากขึ้น การปรับทัพผู้บริหารในจังหวะที่ตลาดรถยนต์มีการแข่งขันที่รุนแรงเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง นับเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายมากที่สุดที่มาสด้ากำลังก้าวข้ามไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในอนาคต
มร.ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การปรับโครงสร้างใหม่ครั้งนี้ มีภารกิจหลักร่วมกันคือการสร้างธุรกิจให้ยั่งยืนภายใต้นโยบาย Retention Business Model ผ่านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าให้ดีที่สุด ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรด้วยการทำงานเป็นทีม รองรับภูมิทัศน์ทางธุรกิจใหม่ในอนาคต พร้อมดึงคนรุ่นใหม่เข้าร่วมทีมและดันผู้บริหารรุ่นใหม่ขององค์กรร่วมสร้างวัฒนธรรมการทำงานให้เกิดความคล่องตัวและไร้รอยต่อ จากพนักงานภายในองค์กรสู่ผู้แทนจำหน่ายถ่ายทอดถึงลูกค้า”
“ผ่านคุณค่าหลัก 3 แกน คือ ให้ความสำคัญกับมนุษย์อย่างแท้จริง มีสปิริตของนักสู้แบบวัฒนธรรมญี่ปุ่น มอบประสบการณ์ความประทับใจด้วยความใส่ใจและเป็นมิตร ตามวิสัยทัศน์การมุ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่จะสร้างความสุขที่มากกว่าแค่ความสุขในการขับรถ สร้างคุณค่าและเติมเต็มชีวิตให้กับผู้คนที่ได้สัมผัสแบรนด์มาสด้าในทุกประสบการณ์และทุกช่วงเวลาของชีวิต”
การปรับโครงสร้างการบริหารงานองค์กรใหม่ในครั้งนี้ ครอบคลุมการบริหารงานภายในองค์กรครบทุกฟังก์ชัน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 นำทัพโดย นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส ขยับขึ้นดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริหาร กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจมาสด้าแบบครบวงจร ขับเคลื่อนองค์กรและผลักดันความสำเร็จของ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ให้เป็นแบรนด์ที่สร้างความรักความผูกพันอย่างเหนียวแน่นในใจของลูกค้าตลอดไป
รวมถึง มร.ทาเคชิ มิคามิ รองประธานบริหารส่วนวางแผนกลยุทธ์และปฏิบัติการ ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานบริหาร CFT Operations หรือ Vice President ผ่านวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับระบบปฏิบัติงาน การพัฒนาศักยภาพบุคลากร รวมถึงทำงานร่วมกันด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นผนวกกับความแข็งแกร่งของบุคลากรคนไทย ขณะที่ นายพิเชษฐ์ ปุณณารักษ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย หรือ General Manager กำกับดูแลส่วนงานขายทั่วประเทศ ประสานงานกับผู้จำหน่ายแบบไร้รอยต่อ เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการดำเนินธุรกิจรถยนต์เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปและมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
พร้อมดึง นายศราวุฒิ บรรยงค์กุล รับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการหลังการขาย หรือ General Manager กำกับดูแลส่วนงานบริการหลังการขายทั่วประเทศ การวางระบบหลังบ้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลลูกค้า เพราะการบริการคือหัวใจสำคัญของการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ด้าน นายวัชระ เจียรบุญ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กำกับดูแลส่วนงานวางแผนกลยุทธ์การตลาด การสื่อสารแบรนด์ การวางแผนผลิตภัณฑ์ และสร้างสรรค์ประสบการณ์ลูกค้า รวมถึงติดต่อประสานงานกับภาครัฐ
การขยับตัวดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ และรถยนต์รุ่นใหม่ที่เข้าคิวลงทำตลาดเร็วๆนี้ เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระตุ้นตลาดรถยนต์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยทีมผู้บริหารพร้อมนำเอาความรู้ความเชี่ยวชาญ ความสามารถอันเต็มเปี่ยม และประสบการณ์การทำงานที่สั่งสมมายาวนานมาบริหารองค์กรเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จของบริษัทร่วมกัน พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์และการบริการที่เป็นเลิศให้ลูกค้า