“ยักษ์ธุรกิจอาหาร” ทุ่ม 40 ล. ขับเคลื่อนระบบกรีนโลจิสติกส์
อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) บริษัทชั้นนำของโลกในธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ทุ่มงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท เปิดตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า สร้างการขนส่งและการกระจายสินค้าแบบกรีนโลจิสติกส์ ขับเคลื่อนสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ นำร่องโรงงานอยุธยา ปทุมธานี หนองแค-สระบุรี ตั้งเป้าลดคาร์บอน 1,600 ตัน/ปี
มร.เค็นจิ ฮะระดะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงโปรเจกต์ใหม่ว่า “ในปี 2567 เรามีเป้าหมายในการลดคาร์บอนลง 92% ด้วยวิธีการเสาะหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานหมุนเวียน เพื่อขับเคลื่อนให้บริษัท เดินหน้าสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เราได้ลงทุน 40 ล้านบาท มุ่งพัฒนาด้าน Green Logistics บนพื้นฐานของระบบประกันคุณภาพของบริษัท เน้นการขนส่งและจัดการสินค้าแบบรักษ์โลก”
“พร้อมเปิดตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า EV ในการขนส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพของอายิโนะโมะโต๊ะจากโรงงานสู่ศูนย์กระจายสินค้า โดยเรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพในการใช้เทคโนโลยีและพลังงานทางเลือกต่อไปในอนาคต เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำให้สำเร็จ โดยตั้งเป้าใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า EV อย่างเต็มรูปแบบ 40% เพื่อเป้าหมายในการลดคาร์บอน 44,000 ตันต่อปี ภายในปี 2573”
โดยอายิโนะโมะโต๊ะได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ ประเทศไทย ผู้นำด้านบริการโลจิสติกส์ครบวงจรในไทย และบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์เชิงพาณิชย์ ในการพัฒนาและเปิดตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า EV เพื่อใช้ในการขนส่งผลิตภัณฑ์ของบริษัท ได้แก่ ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ รสดี และกาแฟเบอร์ดี้ นำร่อง 3 โรงงาน ได้แก่ โรงงานอยุธยา โรงงานปทุมธานี และโรงงานหนองแค-สระบุรี
วางแผนเส้นทางการขนส่งทั้งหมด 11,500 รอบ/ปี เพื่อเป้าหมายในการลดคาร์บอน 1,600 ตันต่อปี โดยใช้หลักการ Green Logistics โฟกัส 3 มิติ ได้แก่ ขนส่งเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการวางแผนโลจิสติกส์อัจฉริยะ AI Planning จัดการการโหลดสินค้า พร้อมหาแนวทางจัดการผลิตภัณฑ์ที่ชำรุดหรือเสียหายระหว่างการขนส่ง ด้วยการส่งให้แก่บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ เอฟ ดี กรีน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทต้นแบบทางธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมของกลุ่มบริษัท ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมจากการดำเนินงานของบริษัท ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตร
รวมถึง ไดเร็ก ชิปปิ้ง แผนการขนส่งและเส้นทางการจัดส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพจากโรงงานสู่ศูนย์กระจายสินค้าโดยตรง เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน และลดพลาสติกในการขนส่ง โดยยังคงสภาพที่ดีของบรรจุภัณฑ์และคุณภาพที่ดีของผลิตภัณฑ์ เช่น ลดการใช้พลาสติกในการห่อหุ้มลังสินค้า ด้วยการวางแผนอย่างใส่ใจและคำนึงถึงสุขอนามัยที่ดีและความสะอาดเป็นหลักสำคัญ ซึ่งบริษัทได้มีการวางแผน Green Logistics กับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อการลดผลกระทบและสร้างความยั่งยืนแก่สิ่งแวดล้อม