“รามอินทรา” ยกนิ้วให้ 550 ยกนิ้วให้…รถยนต์มาสด้า ขอให้…ยอดขายตามเป้า เป็นรถในหัวใจคนไทย
ปิดฉากบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 น่าจะเป็นการเปิดฉากที่สวยงามของค่ายยานยนต์ หนึ่งในความสำเร็จที่ “รามอินทรา” เห็นชัดเจน เป็น “ค่ายมาสด้า” ที่มี “ไอ้หนุ่มหน้ามน” อุทัย เรืองศักดิ์ คอยเป็นแกนกลางเข้าออก “ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี” แม้จะไม่ได้ขายเอง แต่… “คนขายมาสด้า” แค่เห็นหน้าก็หายเหนื่อยแล้ว ปีนี้ “มาสด้า” ไม่ได้ “แดงทั้งบูธ” เหมือนเช่นวันวาน แต่ละรุ่นแต่ละคันมีสีให้ชวนลอง “รามอินทรา” แวะเวียนไปดูยังอดเปิดโน่นดูนี่ไม่ได้ เพราะ “ลูกสาว” หมายตาอยากเป็นเจ้าของ วันนี้…ยังออกอาการลังเลซะแล้ว รักพี่เสียดายน้อง คือ มาสด้า CX-3 กับมาสด้า CX-30 เพราะโดนใจทั้งสองคัน แถมยังลังเลกับสีอีกต่างหาก ทั้งสี platinum quartz และสี carbon edition สวยทั้งสองคันซะด้วย
จบงานกริ๊งกร๊างคุยกับ “ไอ้หนุ่มหน้ามน” ถามไถ่เรื่องยอดจอง ก้อ…ใกล้ๆ 3,000 คัน ถือว่าโอเคเลยล่ะ เพราะตัวเลขน่าจะเป็นไปได้กับสภาพที่เกิดขึ้นภายในบูธ ที่ “รามอินทรา” เห็นคนเต็มทุกวัน ไม่แปลกใจอะไรกับตัวเลขนี้ เพราะรถยนต์มาสด้าเป็นอีกรถต้นที่ใช่ของคนไทย โดยเฉพาะคนที่ชอบบุคลิกชัดเจน รวมถึงเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ และเทคโนโลยีโคโดะ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้า ใครเป็นเจ้าของแล้วสบายใจได้ ขับรถไปไหนมาไหนไม่มีเหงา มีเพื่อนเต็มถนนแน่นอน ยิ่งวันนี้…ไม่ใช่แต่สบายใจได้ ขับรถไปไหนมาไหนไม่มีเหงา มีเพื่อนเต็มถนนแน่นนอน ยิ่งวันนี้…ไม่ใช่แค่แดงอย่างเดียวแล้ว ยังมีสีเรียกเจ้าของอีกต่างหาก
ด้านคนทำงาน “รามอินทรา” ค่อนข้างคุ้นเคยกับ “เฮียหน้าดุ” ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ที่วันนี้เป็นเหมือนแม่ทัพมาสด้า ที่คอยขับเคลื่อนทุกองคาพยพ ต้องขึ้นเหนือล่องใต้จนเป็นเรื่องปกติ ด้วยเหตุผล…เป็นคนที่คุ้นเคยกับ “คนขาย” ทั่วประเทศ คุยกันด้วยภาษาเดียวกัน เข้าใจง่ายไม่ต้องแปล แถมยังเคยทำงานใกล้ชิดกับ “ประธานคนไทย” ชาญชัย ตระการอุดมสุข อดีตประธาน ที่ทำให้รถยนต์มาสด้า กลับสู่ความนิยมของคนไทย การมารับไม้ต่อจึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเพิ่งผ่านวิกฤติมากกว่า 3 ปี แค่ปรับที่ทางก้อ…เหนื่อยแล้วล่ะ ไหนจะต้องเรียกความเชื่อมั่น โดยเฉพาะ “คนขายทั่วประเทศ” จึงไม่ใช่เรื่องง่าย อาจต้องใช้เฉพาะบ้าง แต่…ด้วยประสบการณ์ของ “เฮียหน้าดุ” ก็น่าจะนำทัพมาสด้า สู่ฝั่งฝันได้ไม่ยาก
“รามอินทรา” ถือโอกาสยกมือเชียร์รถยนต์มาสด้า และทีมงานทุกคนให้ประสบความสำเร็จกับการทำให้รถยนต์มาสด้าอยู่ในหัวใจคนไทยตราบนานเท่านาน และถือโอกาสยกนิ้วให้ทุกคนที่ทำงานกับอย่างหนักมาโดยตลอด ที่สำคัญ…ดูแล “คนสื่อ” ทุกคนเป็นอย่างดี ขอให้ดูแลกันเยี่ยงนี้ตลอดไป
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
5 เมษายน 2566