ลองขับ By The Great MINI JCW COUNTRYMAN สายหล่อก็ได้…สายลุยก็ใช้ดี
ค่ายมินิ เอาใจแฟนในประเทศไทยด้วยรถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรหัส John Cooper Works ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว สืบทอดตำนานจากตัวแรงไซซ์เล็กจากเวทีเวิลด์แรลลี่ มีให้เลือกจับจองหลากหลายบอดี้ สนองนี้ดของแฟนมินิ ภายใต้บอดี้ที่หลากหลาย ครบครัน
MINI John Cooper Works Countryman เป็นตัวเลือกที่ทีมงานยวดยาน หยิบยกนำมาทดสอบ โดยเวอร์ชันล่าสุดได้รับการอัปเกรดและลงทำตลาดในประเทศไทยนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 หลังจากที่เวอร์ชันก่อนหน้านี้เปิดตัวสู่ตลาดในช่วงปลายปี 2019
สำหรับเวอร์ชันล่าสุดได้รับการปรับโฉมทั้งภายนอกและภายใน ไล่เรียงจากกระจังหน้าที่เปลี่ยนเป็นเวอร์ชันล่าสุดของมินิ ตัดกรอบสีแดงที่ล้อมรวงผึ้งออก เหลือเพียงเส้นตรงสีแดงที่ลากผ่านระนาบเดียวกับรอยต่อฝากระโปรงกับกันชนหน้า ส่งผลให้ดูเฉี่ยวยิ่งขึ้น ส่วนโลโก้ John Cooper Works ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม
เติมความสปอร์ตด้วยการใช้วัสดุสีดำเงาบริเวณกรอบไฟหน้า รวมถึงมือจับประตู กรอบไฟท้าย และตัวหนังสือ Countryman บริเวณประตูท้าย ซึ่งไฟท้ายได้รับการอัปเดตเป็นลวดลายธงยูเนียนแจ็ค แสดงความเป็นตัวตนของยานยนต์ค่ายมินิอย่างชัดเจน ดูทันสมัยและลงตัวยิ่งขึ้น เติมความสปอร์ตด้วยราวหลังคาและเสาวิทยุครีบฉลามสีดำ
ภายในตัวรถยังคงไว้ซึ่งความสปอร์ตด้วยเบาะ John Cooper Works sport seats สีทูโทนดำ-เทา ตัดด้วยการเดินด้ายสีแดง ดูลงตัวกว่ารุ่นก่อนหน้าที่มาในสีแดง ซึ่งให้ความรู้สึกที่แตกต่างไป ทว่า แผงแดชบอร์ดด้านหน้ามาพร้อมเส้นสีแดงลากยาวจากซ้ายไปขวา รวมถึงบริเวณคอนโซลกลาง โดยส่วนตัวชอบแบบเดิมที่เป็นสีดำมากกว่า น่าจะลงตัวและสอดรับกับสีของเบาะเวอร์ชันล่าสุดมากกว่า
ทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยมาตรวัดดิจิทัลขนาด 5 นิ้วหลังพวงมาลัย รวมถึงจอทัชสกรีนกลางขนาด 8.8 นิ้วที่ล้อมด้วยกรอบสีดำ ที่ได้รับการอัปเกรดให้ตอบสนองการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ระบบเชื่อมต่อต่างๆ ที่เติมเต็มด้านความบันเทิงยังคงมีมาให้ครบครันและใช้งานได้สะดวก รวมถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ ด้วยเช่นกัน
ทว่า ช่องเสียบ USB ที่มาในแบบ Type C ยังคงเป็นสิ่งที่ขัดใจเหมือนกับรถยุโรปหลายๆ รุ่น เนื่องจากในบ้านเรายังคงใช้ Type B เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็แก้ปัญหาได้ด้วยการใช้อะแดปเตอร์ เอาจริงๆ แค่ไปซื้อสาย Type C มาใช้ก็น่าจะง่ายกว่า แต่ก็นั่นแหละครับ สายที่แถมมาให้กับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ยังเป็นแบบเดิม และก็คิดว่าทำไมต้องไปเสียเงินซื้อเพิ่ม ทั้งๆ ที่จริงราคาก็ไม่กี่ตังค์
ด้านพละกำลัง ยังคงขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เวอร์ชันล่าสุด ที่ได้รับการอัปเกรดจากเวอร์ชันก่อนหน้า รีดพละกำลังเพิ่มขึ้น 75 แรงม้า ส่วนแรงบิดขยับขึ้น 100 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ Steptronic Sports 8 จังหวะ พร้อมแพดเดิ้ลชิฟต์ที่คันเกียร์ และหลังพวงมาลัย ใช้งานได้สะดวก มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ALL4
ความโดดเด่นของ MINI John Cooper Works Countryman ไล่เรียงกันตั้งแต่รูปร่างหน้าตา รวมถึงสี Sege Green ที่เสริมให้เข้ากับลุคของรถรุ่นดังกล่าว รวมถึงชุดสติกเกอร์สีดำที่เสริมให้ดูสปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้น ส่วนในเรื่องของสมรรถนะการใช้งาน ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ดูไม่ค่อยพิสมัยสักเท่าไหร่กับชีวิตคนเมือง ที่รถค่อนข้างติด
ทว่า เมื่อใช้ออกทริปในย่านความเร็วที่ลอยตัวแล้ว ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังพร้อมลุยบนสภาพเส้นทางในรูปแบบออฟโรด ซึ่งเราก็ได้ทดลองใช้ทั้งขึ้นและลงทางลาดชัน สามารถใช้ได้อย่างมั่นใจ ทั้งในเรื่องการควบคุมรถและพละกำลัง โดยส่วนตัวชอบคาแรกเตอร์ดังกล่าวของ MINI John Cooper Works Countryman มากกว่าขับหล่อๆ ในเมือง ใครชอบแบบไหนก็ว่ากันไป
ข้อมูลทางเทคนิค
ยี่ห้อและรุ่นรถ MINI John Cooper Works Countryman
มิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง (มม.) 4,299 x 1,822 x 1,557
ระยะฐานล้อ (มม.) 2,670
แบบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ
ปริมาตรความจุ (ซี.ซี.) 1,998
พละกำลังสูงสุด (แรงม้า) 306 ที่ 5,000-6,250 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร) 450 ที่ 1,750-6,250 รอบ/นาที
ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตร/นาที) 250
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sports 8 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ALL4
ระบบช่วงล่าง Sport Suspension
ล้อ หน้า/หลัง ล้ออัลลอย John Cooper Works Circuit Spoke 2 Tone ขนาด 19 นิ้ว
ยาง หน้า/หลัง PIRELLI P ZERO ขนาด 225/45R19
ราคาจำหน่าย 3,648,000 บาท