#Post Title #Separator #Site Title

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ถูกส่งลงทำตลาดประเทศไทยในช่วงปลายปี 2020 ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกที่มาพร้อมขุมพลัง อี-พาวเวอร์ ในบ้านเรา ขณะที่บนแผ่นดินแม่อย่างประเทศญี่ปุ่น มีให้เลือกใช้หลากหลายรุ่น และเป็นที่นิยมของผู้ใช้รถแดนปลาดิบ ด้วยสมรรถนะการใช้งานที่โดดเด่นในเรื่องของความประหยัด

ทว่าจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน บวกกับราคาที่ยากต่อการตัดสินใจ ส่งผลให้ยอดขายไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร ก่อนที่ค่ายนิสสันจะขยับตัวเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ด้วยรุ่นออเทค ภายใต้ดีไซน์ภายนอกที่สะดุดตากับสีทูโทน หลังคาดำ มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งสีเงินเมทัลลิก ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง เสริมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ สีดำเงาของ AUTECH

ภายในห้องโดยสารใช้โทนสีดำ-น้ำเงิน สไตล์สปอร์ต เพิ่มความโดดเด่นด้วยการเดินด้ายสีน้ำเงิน บริเวณแผงแดชบอร์ด คอนโซลกลาง พวงมาลัย เบาะนั่ง และแผงข้างประตู เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า รวมถึงคันเกียร์ไฟฟ้าดีไซน์ใหม่ ที่ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังได้เพิ่มวัสดุบุนุ่มคุณภาพสูงในหลายๆ จุดที่สัมผัสกับผู้ใช้งานบ่อยๆ เช่น ที่พนักวางแขน และคอนโซลกลาง

ขณะที่ขุมพลังอี-พาวเวอร์ เจเนอเรชัน 2 ของนิสสัน ได้รวมเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าไว้เป็นยูนิตเดียวกัน ส่งผลให้มีน้ำหนักลดลงถึง 30% พร้อมเพิ่มขนาดแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนเป็น 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า และสร้างแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร

ส่วนเครื่องยนต์ DOHC แบบ 3 สูบ 12 วาล์ว ความจุ 1.2 ลิตรในนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ทำหน้าที่เป็นโรงไฟฟ้าก่อนจะจ่ายกระแสไฟให้กับเจเนอเรเตอร์และอินเวอร์เตอร์ เพื่อชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่ขับเคลื่อน ซึ่งนิสสันเคลมว่ามีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 26.3 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับการขับขี่ในเมือง

อี-เพดดัล สเต็ป เป็นอีกนวัตกรรมที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการขับขี่ เมื่อใช้โหมด สปอร์ต & อีโค จะสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วได้ด้วยการใช้แป้นคันเร่งเพียงแป้นเดียว เมื่อยกเท้าขึ้นจากคันเร่ง รถสามารถชะลอความเร็วลง และปล่อยไหลไปได้อย่างต่อเนื่องในย่านความเร็วต่ำ เติมเต็มการใช้งานด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันหรือ Nissan’s 360° SAFETY SHIELD

โดยภาพรวม NISSAN KICKS e-POWER AUTECH ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและออกทริปเดินทางสำหรับครอบครัวขนาดย่อม โดดเด่นทั้งในเรื่องรูปโฉมสไตล์สปอร์ตเป็นตัวตน ตอกย้ำแนวทางการตลาดของนิสสันภายใต้รหัสดังกล่าวได้เป็นอย่างดี รวมถึงสมรรถนะการใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์ ภายใต้ขุมพลังที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ในขณะที่เครื่องยนต์มีหน้าที่ปั่นไฟเพียงเท่านั้น จะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเหมือนเครื่องยนต์ไฮบริด

ด้านพละกำลังนั้น ตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ขณะที่ระบบช่วงล่างไม่นุ่มย้วยและอาจจะกระด้างไปหน่อย แต่ในมุมของผู้ขับขี่อยู่ในระดับที่รับได้ ส่วนในเรื่องการบริโภคเชื้อเพลิง แม้จะไม่ได้เท่าตัวเลขที่ค่ายผู้ผลิตเคลม แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในยุคที่ผู้ใช้รถได้ลุ้นกับค่าตัวของน้ำมันเชื้อเพลิงเกือบจะรายวัน