“เบนซ์” เติมไลน์ วี-คลาส ตอบโจทย์ครอบครัว 5.4 ล้าน
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ขยับตัวต้นปีด้วย Mercedes-Benz V 250 d Exclusive รถแวนอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง อิมพอร์ตจากฐานผลิตที่ประเทศสเปน ชูความหรูหรา พรีเมียม ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ตอบโจทย์การเดินทางของครอบครัวยุคใหม่ ภายใต้ราคาจำหน่าย 5,400,000 บาท
หลังจากเสริมทัพด้วยรถยนต์นั่งในตระกูลซี-คลาส อย่าง Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic และ Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select รถตู้อเนกประสงค์สำหรับผู้บริหาร ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในประเทศไทย ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ประเดิมตลาดปี 2023 ด้วย Mercedes-Benz V 250 d Exclusive รถแวนอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ระดับเฟิร์สคลาส ผลผลิตจากโรงงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในเมืองบิโตเรีย-กัสเตอิซ ประเทศสเปน ฐานผลิตรถแวนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
Mercedes-Benz V 250 d Exclusive ตอบโจทย์การใช้งานในบทบาทของรถแวนแบบ 3 ตอน 7 ที่นั่ง จัดรูปแบบการนั่งแบบ 2-2-3 ตัวถังแบบ Extra Long ภายใต้มิติตัวถัง กว้าง x ยาว x สูง ที่ 1,928 x 5,370 x 1,909 มม. ส่งผลให้มีพื้นที่ใช้สอยในส่วนของพื้นที่โดยสารและพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่มากขึ้น มีความจุสัมภาระสูงสุด 1,410 ลิตร และความจุถังน้ำมัน 70 ลิตร
ผสานความพรีเมียมและความสปอร์ตด้วยการตกแต่งแบบ Avantgarde รอบคัน ล้ออัลลอย 5-Twin Spoke ขนาด 18 นิ้ว พร้อมไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ปรับลำแสงตามสภาพแวดล้อมแบบอัตโนมัติ และ Daytime Running Light รวมถึงการติดตั้งระบบไฟฟ้าสำหรับประตูบานเลื่อนของผู้โดยสารตอนที่ 2 และประตูท้าย พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนแบบ AGILITY CONTROL ช่วยซับแรงกระแทกและทำให้ช่วงล่างมีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารตกแต่งคอนโซลด้วยลวดลาย pinstripe effect สอดรับกับหน้าจอหลักบนคอนโซลกลางที่เป็นจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว ใช้ระบบเชื่อมต่อแบบ Smart Phone Integration รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึงระบบ MBUX ผสานการทำงานของระบบมัลติมีเดียเข้ากับเทคโนโลยีอัจฉริยะ AI เพื่อเรียนรู้และจดจำพฤติกรรมของผู้ขับขี่ พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester และ Ambient Light แบบปรับเฉดสีได้ 3 สี
โดดเด่นนุ่มสบายด้วยเบาะหนัง Lugano สีดำ ผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า สามารถตั้งค่าหน่วยความจำได้ด้านละ 3 ตำแหน่ง ผู้โดยสารตอนหลังแถวที่ 1 จะเป็นรูปแบบ Luxury captain seat แยกซ้าย-ขวา ปรับด้วยไฟฟ้าและหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบนวดหลัง ระบบระบายอากาศ และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบแยกโซน โดยมีระบบ THERMOTRONIC สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และระบบ TEMPMATIC สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1,950 ซี.ซี. ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เจเนเรชันล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่สามารถรีดพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,350-2,400 นาที ทำความเร็วสูงสุดโดยประมาณที่ 205 กม./ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ โดดเด่นในการรักษาระดับการทำงานของรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำ และช่วยให้จังหวะการเร่งเครื่องมีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น เหมาะกับการขับขี่ในทุกสภาพถนน
ครบครันด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานและระบบความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงอุปกรณ์ที่เสริมความปลอดภัย อาทิ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติแบบแอกทีฟ (Active Brake Assist) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST ระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic headlight assist) เซ็นเซอร์ปัดน้ำฝน (Rain sensor) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ถุงลมนิรภัยและม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน พร้อมเทคโนโลยีกล้องแสดงภาพแบบรอบทิศทาง (360º Camera)
สำหรับ Mercedes-Benz V 250 d Exclusive มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีขาว (Crystal white) สีแดง (Hyacinth red metallic) สีเงิน (Brilliant silver metallic) สีดำ (Obsidian black metallic) สีเทา (Pebble grey) และสีเทาเข้ม (Dark graphite grey metallic) วางจำหน่ายในราคา 5,400,000 บาท