เอ็มจี สานต่อปณิธานในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของไทยให้แข็งแกร่ง ล่าสุดเดินหน้าส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า MG EP  ถึงมือสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 จำนวน 17 คัน เพื่อสนองต่อนโยบายรัฐในการริเริ่มการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%

                  เอ็มจี ถือเป็นอีกหนึ่งค่ายผู้ผลิตรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จ นับตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในปี 2013 ซึ่งการทำตลาดในไทยตลอด 7 ปี ถือว่าลงหลักปักฐานได้อย่างสมบูรณ์ สามารถท้าทายพลังของรถแบรนด์ญี่ปุ่นที่ครองตลาดในไทยมานานได้ในที่สุด

จากยอดขายที่ขยับตัวและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตัวเลขหลักหมื่นคันต่อปี โดยในปี 2564 เอ็มจีสามารถสร้างยอดขายให้กับแบรนด์สูงสุดประมาณ 30,000 คัน เติบโตขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ทำได้ 28,316 คัน แต่ถึงกระนั้นตัวเลข 30,000 คัน และยอดขายที่เติบโตของเอ็มจี ยังตํ่ากว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการผลิต ส่งผลให้รถยนต์หลายรุ่นผลิตไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า ทั้งปิกอัพ Extender เก๋งซับคอมแพ็ค MG5 รวมถึง EV จากจีนที่ส่งมาให้แบบจำกัด

โดย MG ZS EV หมดสต๊อกไปตั้งแต่ครึ่งปีแรก ซึ่งโฉมไมเนอร์เชนจ์เตรียมเปิดตัวต้นปี 2565 จึงกลายเป็น MG EP EV ตัวถังสเตชันแวกอน ที่ทำยอดขายได้ดีกว่า โดยยอดขายรวมทั้งสองรุ่นในปีนี้น่าจะอยู่ประมาณ 1,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่ขาย EV ได้กว่า 800 คัน

ทั้งนี้ เอ็มจี ประกาศชัดเจนว่า ตนเองเป็นผู้บุกเบิกตลาด EV ในไทย พร้อมเดินหน้าสร้างระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้า และภายในปี 2564 ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จ DC ถึง 150 แห่ง และพยายามทำให้ถึง 500 แห่งในปี 2565

นายจาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์- ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เอ็มจีมุ่งมั่นผลักดันสังคมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างต่อเนื่องมากว่า 3 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เอ็มจีไม่ได้เพียงแค่เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมในทุกมิติควบคู่กันไป

“วันนี้เราภูมิใจที่ได้เห็นการเติบโตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจนกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม อีกทั้งยังเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลากหลายแบรนด์เริ่มแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง รวมไปถึงภาครัฐที่ออกมาตรการเพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างชัดเจน”

ขณะเดียวกัน เอ็มจี ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสนองต่อนโยบายรัฐในการริเริ่มการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เพื่อกิจกรรมภายในองค์กร พร้อมร่วมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของไทยให้แข็งแกร่ง ซึ่งล่าสุดได้ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า MG EP ถึงมือสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 จำนวน 17 คัน

“MG EP เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถสร้างสีสันให้กับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และเป็นตัวเลือกที่ได้รับความสนใจทั้งจากกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่นำรถไปใช้ในชีวิตประจำวัน และกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานขององค์กรได้เป็นอย่างดี  ล่าสุด เอ็มจี ได้บรรลุเป้าหมายอีกขั้น ในการเพิ่มสัดส่วนยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ขยายตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมไทยเกิดการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ด้วยการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริง อย่างรุ่น MG EP จำนวนทั้งสิ้น 17 คัน ให้กับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามแนวทางของรัฐที่มุ่งเดินหน้าวางรากฐานการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน เอ็มจี รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำ และเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการเพิ่มขึ้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกๆ คัน คือหมุดหมายสำคัญและเป็นแรงผลักดันให้กับเอ็มจีในการสร้างสังคมที่ดียิ่งขึ้น” นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

สำหรับ MG EP ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้ากลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นอย่างมาก จากความโดดเด่นของรถรุ่นนี้ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “EVeryone” ด้วยองค์ประกอบพื้นฐานของการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง รวมถึงความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ ด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และค่าบำรุงรักษาที่ต่ำช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว จึงเหมาะกับการใช้งานสำหรับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับทั้งสมรรถนะของตัวรถและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป รวมไปถึงลงทุนสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ด้วยการสร้างสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนสถานีชาร์จรวมทั่วประเทศแล้วกว่า 800 แห่ง จำนวนนี้กว่า 120 แห่ง เป็นสถานีชาร์จที่เอ็มจี ลงทุนเอง ภายใต้ชื่อ MG Super Charge ที่ได้ติดตั้งในพื้นที่ศูนย์บริการที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศรวมถึงพื้นที่อื่นๆ ของหน่วยงานพันธมิตร ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้คนไทยเข้าใจและมั่นใจในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคต