“แร็พเตอร์” พร้อม!!! ทะลุ 2.8 พันคัน ตอกย้ำผู้นำรถกระบะสูงสมรรถนะ
ฟอร์ด ประเทศไทย พร้อมเดินหน้าส่งมอบ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนฯใหม่ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย หลังได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคนับตั้งแต่เผยโฉมและเปิดให้จับจองในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ เดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดจองไปแล้วมากกว่า 2,800 คัน ตอกย้ำบทบาทผู้นำรถกระบะสูงสมรรถนะในประเทศไทย สานต่อความสำเร็จของรุ่นก่อนหน้าที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถกระบะ
หลังจากที่ ฟอร์ด ประเทศไทย เขย่าตลาดและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 มาพร้อมคำถามถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ค่ายฟอร์ด ต้องเจอกับอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตรวมถึงภาพลักษณ์ของยานยนต์สัญชาติอเมริกัน
อย่างไรก็ดี ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้ตอบข้อสงสัยด้วยสมรรถนะที่ก้าวกระโดดขึ้นไปอีกระดับ รวมถึงรูปโฉมที่โดดเด่นและสะดุดตาเป็นตัวตนที่ชัดเจน มาพร้อมการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากผู้บริโภคในประเทศไทย ที่พร้อมจ่ายเพิ่มเพื่อแลกกับสิ่งที่แตกต่างจากที่ได้รับในรถกระบะที่มีในตลาด ทั้งยังสร้างมาตรฐานใหม่และกระตุ้นให้คู่แข่งในตลาดขยับตัว รับกับเทรนด์ใหม่ของรถกระบะ ด้วยยอดขายมากกว่า 6,600 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทย
ก่อนที่ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันที่ 2 จะเปิดตัวพร้อมกับเพื่อนร่วมสายพันธุ์อย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ครบครันทั้งไลน์อัปในตลาดประเทศไทย โดยใช้งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ เป็นช่วงเวลาในการนำเสนอและขับเคลื่อนยอดขายเช่นเดิม และยังคงไว้ซึ่งความนิยมด้วยรูปโฉมที่โดดเด่น บวกกับสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัว เน็กซ์-เจน ทั้งในบทบาทของรถกระบะ และรถอเนกประสงค์
โดย ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ครองสัดส่วนยอดจองของรถฟอร์ดเจนฯใหม่นับตั้งแต่ให้เปิดจองภายในงานมากกว่า 40% รวมถึง ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ที่ครองสัดส่วนยอดจองใกล้เคียงกัน และมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ค่ายฟอร์ด คว้ายอดจองในงานมอเตอร์โชว์เกาะอยู่ในกลุ่มหัวแถว ตอกย้ำความนิยมของรถยนต์ฟอร์ดในประเทศไทย
สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ เป็นผลผลิตจากโรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ในจังหวัดระยอง ซึ่งฟอร์ด ได้ลงทุนเพิ่ม 2.8 หมื่นล้านบาท หรือ 900 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นมูลค่าลงทุนในประเทศไทยครั้งใหญ่ที่สุดของฟอร์ด เพื่อรองรับและยกระดับการผลิตให้ล้ำสมัย ขับเคลื่อนกลยุทธ์ฟอร์ด พลัส เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัท
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นที่สองได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ยกระดับสมรรถนะด้านออฟโรด อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่ภายใต้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร EcoBoost V6 มอบพละกำลัง 397 แรงม้า แรงบิด 583 นิวตันเมตร เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและเส้นทางออฟโรด ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ปรับจูนตามมาตรฐานของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์
มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ด้วยโช้คอัพ FOX แบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยใช้ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ด้วยความสามารถในการปรับการทํางานได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้เซ็นเซอร์รอบคัน ทําให้โช้คปรับค่าความหน่วงจากจุดปะทะต่างๆ ได้มากถึง 500 ครั้งต่อวินาที เติมเต็มประสิทธิภาพการใช้งานด้วย 7 โหมดการขับขี่
ภายในห้องโดยสารตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้มโค้ด ออเรนจ์ ตามแบบฉบับของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลักๆ ในห้องโดยสาร เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและหลังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ F-22 Raptor มอบความกระชับและเพิ่มความสบายในการเดินทาง ทันสมัยด้วยระบบดิจิทัลทั้งหมด แผงหน้าปัดความละเอียดสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® ภายใต้ราคาจำหน่าย 1,869,000 บาท
ด้วยความชัดเจนและเป็นตัวตนของ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ส่งผลให้รถกระบะสมรรถนะสูงจากค่ายฟอร์ด คงไว้ซึ่งความนิยมจากแฟนในประเทศไทย เดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดจองไปแล้วมากกว่า 2,800 คัน ซึ่ง ฟอร์ด ประเทศไทย ได้เริ่มเดินเครื่องส่งมอบรถให้กับลูกค้าในประเทศไทย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถส่งมอบได้ราว 500 คัน/เดือน ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่ยังคงเดินไปในทิศทางที่ยอดเยี่ยม
นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า “ฟอร์ดรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเริ่มส่งมอบรถฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่ลูกค้าชาวไทยรอคอยให้ลูกค้าได้สัมผัสและจับจองเป็นเจ้าของ หลังจากที่เราได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากการเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”
“นอกจากการเปิดตัวรถฟอร์ดร่นุใหม่ๆ แล้ว เรายังพร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการเป็นเจ้าของรถฟอร์ดให้กับลูกค้าทุกท่าน ด้วยบริการแบบพร้อมเสมอ เพิ่มความอุ่นใจในการใช้งาน พร้อมนำเสนอนวัตกรรมการบริการในรูปแบบดิจิทัลและนวัตกรรมด้านบริการใหม่ๆ อีกมากมาย นับเป็นความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงของทีมงานทุกฝ่ายในการดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว”