แอ็กชัน “อีซูซุ” “มิว-เอ็กซ์” ควงคู่ “ไฮแลนเดอร์” เติมเต็มการใช้งาน 2 ขุมพลังทางเลือก
ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ขยับตัวรับทิศทางที่ดีของตลาด เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วยรุ่นพิเศษ ISUZU D-MAX Hi-Lander M SMART และ ISUZU MU-X 4×2 ELEGANT SMART ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ลิตร เคาะราคาเริ่มต้น 1,030,000 บาท ในบอดี้ของรถกระบะ และ 1,349,000 บาท ในรูปโฉมของพีพีวี โดดเด่นด้วยออปชันการใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกันไป สอดรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
หลังจากที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ได้เปิดตัวรถกระบะอีซูซุดีแมคซ์ พร้อมด้วยรถพีพีวี อีซูซูมิว-เอ็กซ์ รุ่นปรับโฉมปี 2022 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยในไลน์อัปรถกระบะมีให้เลือกใช้ครบครัน ทั้งในรุ่น CAB 4, Hi-Lander, V-Cross, Spacecab และ Spark มาพร้อมสีใหม่ เทาโอเพค ซึ่งเป็นเทรนด์ของยานยนต์ในยุคปัจจุบัน เพิ่มมาเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค รวมถึงในอีซูซูมิว-เอ็กซ์ ด้วยเช่นกัน
ด้วยความนิยมและความเชื่อมั่นของแฟนอีซูซุ ส่งผลให้ยานยนต์ค่ายอีซูซุยังคงได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากผู้บริโภค และเดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถสร้างอัตราเติบโตได้หลังผ่านไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขยับเพิ่มขึ้น 16.6% ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 57,420 คัน ส่วนแบ่งตลาด 24.8% ครองอันดับ 2 ในตลาดรถยนต์ ที่มีปริมาณการขายรวม 231,189 คัน เพิ่มขึ้น 19.1% หลังผ่าน 3 เดือนแรกของปี
ล่าสุด ค่ายอีซูซุขยับตัวรับทิศทางอันยอดเยี่ยมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้แต่ละค่ายสามารถขับเคลื่อนกลยุทธ์ สร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขายได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่กระตุ้นตลาดให้ตื่นตัวยิ่งขึ้น
โดยเพิ่มรุ่นพิเศษอย่าง ISUZU D-MAX Hi-Lander M SMART มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ภายใต้พิกัดเครื่องยนต์ขนาด 1.9 และ 3.0 ลิตร สำหรับรูปโฉมภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Double Dimensions เพิ่มมิติด้วยการใช้สีทูโทน โครมและดาร์ค เกรย์ เมทัลลิค ทันสมัยด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เสริมการใช้งานด้วยเดย์ไทม์รันนิ่งไลต์ และไฟตัดหมอกแบบ LED
ด้านท้ายรถมาพร้อมกันชนท้าย Integrated Bumper ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ ขึ้น-ลงได้ง่าย ทั้งยังช่วยในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์ โดดเด่นทันสมัยด้วยไฟท้าย Dual-Sonic LED แบบ Clear Lens อันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความสว่างที่ชัดเจน เติมเต็มด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีทูโทน ลาย 6 ก้าน ดีไซน์แบบ Robust Radius พร้อมยางขนาด 265/60R18
ภายในห้องโดยสารมาในโทนสีดำ ผสานความสปอร์ตและพรีเมียมด้วยวัสดุตกแต่ง Piano Black และ Satin Chrome เน้นความกว้างขวางและการใช้งานที่หลากหลายภายในห้องโดยสารด้วยดีไซน์แบบ Shape Horizontal Layers เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Cool Max ทรงสปอร์ต หุ้มด้วยหนังสีดำ ปรับด้วยไฟฟ้าแบบ 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับ เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับพนักพิงได้ ขณะที่เบาะรองนั่งแยกส่วน 60:40 และพับยกขึ้นได้
มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มด้วยหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง มาตรวัดเรืองแสง Optitron และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFT 3 มิติ ขนาด 4.2 นิ้ว ทันสมัยด้วยระบบกุญแจ Smart Keyless Entry และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ Push Start Button สะดวกสบายด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมด้วยช่องแอร์และช่องชาร์จไฟ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เติมเต็มด้วยระบบกรองอากาศ PM 2.5
ขับเคลื่อนด้วย 2 ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล Ddi BLUE POWER Gen2 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler ขนาด 1.9 ลิตร 1,898 ซี.ซี. พละกำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร และ ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซี.ซี. พละกำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
โดย ISUZU Hi-Lander 1.9 M SMART 6AT 2WD มาพร้อมราคาจำหน่าย 1,030,000 บาท ส่วน ISUZU Hi-Lander 3.0 M SMART 6AT 2WD เคาะราคาขายที่ 1,054,000 บาท มีสีตัวถังภายนอกให้เลือกใช้ 6 สี ได้แก่ สีเทา Islay Gray Opaque, สีดำ Bavarian Black Mica, สีเงิน Bohemian Silver Metallic, สีน้ำเงิน Polynesian Blue Metallic, สีส้ม Valencia Topaz Metallic และ สีขาวมุก Everest White Pearl
ส่วนในไลน์อัปรถพีพีวี เพิ่มทางเลือกด้วย ISUZU MU-X 4×2 ELEGANT SMART มาภายใต้ 2 เครื่องยนต์ทางเลือกด้วยเช่นกัน โดยรูปโฉมภายนอกผสานความหนักแน่นและพลิ้วไหวด้วยกระจังหน้าแบบ World Cross Flow โฉบเฉี่ยวทันสมัยด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-LED ดีไซน์ Arrow Signature พร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED เพิ่มความโดดเด่นด้านท้ายรถด้วยไฟท้าย LED เพิ่มมุมมองด้วยโคมไฟ 3 ไลน์ ดีไซน์แบบ Winglet Signature เติมเต็มด้วยล้ออัลลอยไดนามิกดีไซน์ ขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารหรูหราพรีเมียม ด้วยสีทูโทน เบาะนั่งคู่หน้า Coolmax ทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล Saddle Brown ฝั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ควบคุมการใช้งานได้สะดวกด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ครบครันด้วยระบบความบันเทิง Isuzu Ultimate Entertainment ด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนต์ ขนาด 9 นิ้ว เพิ่มมิติของเสียงด้วยลำโพง 8 จุด รวมถึงระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5
มาพร้อม 2 ขุมพลังทางลือก เครื่องยนต์ดีเซล Ddi BLUE POWER Gen2 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler ขนาด 1.9 ลิตร 1,898 ซี.ซี. พละกำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร และ ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซี.ซี. พละกำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
โดย ISUZU MU-X 1.9 ELEGANT SMART AT 2WD เคาะราคาจำหน่ายที่ 1,349,000 บาท ขณะที่ ISUZU MU-X 3.0 ELEGANT SMART AT 2WD มาพร้อมค่าตัว 1,394,000 บาท มีให้เลือกใช้ 6 สี ได้แก่ สีน้ำตาล Marrakesh Brown, สีแดง Etna Red, สีดำ Bavarian Black Mica, สีเทา Iceberg Silver, สีเงิน Bohemian Silver Metallic และสีขาวมุก Dolomite White Pearl