โซ่หลุด ฉบับ 983 ย้อนรำลึกถึง…วันวาน คิดถึงซูซูกิ…คิดถึงคาวาซากิ ความคึกคักที่หายไป
วันนี้…เข้าสู่ครึ่งปีหลังของปี 65 แล้ว “โซ่หลุด” หวังว่าจะได้เห็นความคึกคักของตลาดรถจักรยานยนต์ ด้วยเพราะสถานการณ์ของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ทำให้ “ภาครัฐ” ตัดสินใจยอมให้คนไทยสามารถเปิดหน้ากากได้แล้ว แม้จะยังมีคำถาม…ตัวเลขคนติดเชื้อ ทำไมยังเกาะติดอยู่ในหลักเกินกว่า 2 พันคน ซึ่งก็มีคำถามชัดเจนว่า…ยังไงตัวเลขคนติดก็จะยังคงอยู่ และเตือนให้ดูแลตัวเอง อย่าประมาท โดยเฉพาะการอยู่ในสังคมหมู่มาก ควรสวมหน้ากากไว้ก่อน
“โซ่หลุด” เกริ่นเรื่องโควิด-19 ด้วยเหตุผล…แม้จะอยากเห็นความคึกคักแห่งตลาดรถจักรยานยนต์ อยากเห็นการจัดกิจกรรมที่เคยมี แต่…ก็ยังอยากให้คำนึงถึงความปลอดภัยด้วย เพราะถ้าโควิด-19 หวนคืนมาอีก ชีวิตคงไม่สนุกแน่นอน ต้องไม่ลืมนะว่า…คนใช้รถจักรยานยนต์นั้น ส่วนมากชีวิตต้องใกล้ชิดกัน โอกาสที่จะติดเชื้อก็ยังมีโอกาสสูงกว่า ก้อ…เขียนด้วยความห่วงใย ผสมกับความอยากเห็นความคึกคัก ยิ่งเป็นความคึกคักของ 2 ค่ายหลักอย่าง ฮอนด้ากับยามาฮ่า ยิ่งอยากเห็น เพราะเป็นเหมือนเสาหลักแห่งความคึกคัก
เป็นเรื่องแปลก…เพราะในความเป็นจริงตลาดรถจักรยานยนต์ของเมืองไทย ยังมีอยู่ครบทั้ง 4 ยี่ห้อ แต่…ระยะหลังไม่ว่าซูซูกิหรือคาวาซากิ มักไม่มีแอ็กชันของความคึกคัก ไม่มีกิจกรรม ไม่มีการใช้จ่ายงบ ขายได้คือขายได้ ไม่จำเป็นต้องแสวงหาเป้าหมาย และโปรดอย่าถามหาความคึกคัก มีจังหวะการขับเคลื่อนที่ชัดเจน ทั้งๆ ที่มี “แฟนพันธุ์แท้” พร้อมยกมือเชียร์ “คาวาซากิ” อาจมีเป้าหมายชัดเจนเป็นการส่งออก แต่ “ซูซูกิ” นั้น มีการเปลี่ยนแปลง “คนบริหาร” แต่ยังไงเห็นมีการเปลี่ยนแปลงเป้าหมาย ยังคงเรื่อยๆ มาเรียงๆ ข่าวคราวค่อนข้างเงียบเหงา ทั้งๆ ที่มี “แฟนพันธุ์แท้” เยอะแยะ
เขียนยังงี้…ไม่ใช่เพราะ “โซ่หลุด” มีปัญหาอะไรกับ 2 ค่ายนี้ แต่…เป็นเพราะยังเชื่อว่า…มี “แฟนพันธุ์แท้” พร้อมสนับสนุน พร้อมที่จะเสริมความคึกคัก แต่…เท่าที่เช็กสถานการณ์แล้ว ยังคงเหมือนเดิม ยิ่งเจอะเจอโควิด-19 ก่อนหน้านี้ ยิ่งเหมือนไม่มีความเคลื่อนไหว รู้สึกคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ คิดถึงความคึกคักของทั้ง 2 ค่าย ก้อ…เป็นแค่การคิดถึง ที่รับรู้ได้เลยว่า ยากจะมีวันนั้น วันที่เป็นแค่ความทรงจำดีๆ วันที่คึกคักกว่าวันนี้ เป็นอีกความเสียดายของ “โซ่หลุด”
คิดถึงซูซูกิ…คิดถึงคาวาซากิ