มิตรภาพผ่านเว็บไซต์ 491 ไม่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้ ชีวิต…ต้องดำเนินต่อไป ดูแลตัวเองและคนรอบข้าง
โอไมครอน…ขยับตัวเลขสูงขึ้นทุกวัน แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่า “คนไทย” การ์ดตกกันมากขึ้น โดยเฉพาะ…การฝ่าฝืนกฎกติกา ร้านอาหารที่แปลงร่างมาจากผับ ยังกลายเป็นปัญหาที่ตัวเลขคนติดเพิ่มมากขึ้น เพราะการนั่งดื่มนั่งกินแล้วเปิดหน้ากากนั้น เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เป็นแหล่งเพาะเชื้อที่น่ากลัวที่สุด แต่สุดท้าย…ก็กลายเป็นปัญหาของ “ภาครัฐ” เป็นปัญหาที่ทุกคนโยนใส่ แต่ไม่เคยโยนใส่ตัวเอง ไม่ยอมโยนใส่คนใกล้ตัว ที่การ์ดตกไม่ยอมโยนใส่คนที่เปิดหน้ากากยืนสูบบุหรี่อยู่ริมถนน สุดท้าย…เป็นเรื่องของสำนึกนั่นแหละ
เคยสังเกตมั้ยว่า…จำนวนคนติดเชื้อที่เยอะขึ้นนั้น ส่วนมากเกิดจากการมั่วสุมนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นการมั่วสุมดื่มสุรา มั่วสุมกินข้าวแบบมันปาก เพราะไม่ได้กินอย่างเดียว นั่งกินไปเม้าท์ไป เปิดหน้ากากแบบไม่สนใจอะไร? แล้วถ้ามีใครสักคนติดโควิด-19 หรือโอไมครอนขึ้นมา ก้อ…เหมายกแผง มึงติดกูติดไม่ต้องโทษใคร แต่…กว่าจะรู้เรื่องว่าตัวเองติด ใช้เวลา 2-3 วัน ทีนี้ก็ยุ่งสิครับ เพราะแต่ละคนไปไหนมาไหนบ้าง? เดือดร้อนไปทั่วสิครับ นี่ก็เป็นอีกปัญหาที่ทำให้จำนวนตัวเลขคนติดเยอะขึ้น รวมถึงทำให้คนรอบข้างพลอยเดือดร้อนไปด้วย เป็นอีกปัญหาที่ยากจะแก้ไขจริงๆ
ส่วนในแวดวงคนยานยนต์ ก้อ…ยังมีทั้งเข้าออฟฟิศ และ Work From Home ก็แล้วแต่สถานการณ์ของบริษัท เพราะยังไงชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ยังไงก็ต้องปรับตัวอยู่กับมันให้ได้ ไม่ยังงั้นก็คงไม่ต้องทำมาหากิน คอยแต่หวาดระแวงกลัวโน่นห่วงนี่ ตราบใดที่ “คนไทย” ยังมีคนเห็นแก่ตัว ยังมีคนเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน ยังมี “คนไทย” บางคนแอบขน “คนต่างด้าว” เข้ามายังประเทศไทย อะไร? ก็เกิดขึ้นได้ การดูแลตัวเองดูแลคนรอบข้างให้ปลอดภัย ปลอดโรคปลอดโควิด-19 ปลอดโอไมครอน นี่เป็นเรื่องประเสริฐสุด
วันนี้…การจราจรของกรุงเทพเริ่มเข้าสู่ระบบจราจรติดขัดเกือบจะเหมือนเดิมแล้ว จะไปไหนมาไหนเผื่อเวลาเอาไว้บ้าง เพราะรถติดแน่นอน การจราจรกลับมาเหมือนเดิมแล้ว นั่นแสดงว่า นับจากน้ีเป็นต้นไป “คนไทย” จะอยู่แบบกลัวโควิด-19 กลัวโอไมครอนเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ต้องทำมาหากิน ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย ไม่ใช่ปลอดภันจากวิกฤติ แต่…ชีวิตยิ่งยากลำบาก ชีวิตไม่มีจะกินยังไงก็ยากลำบากไม่แตกต่างกัน เพียงแต่…ต้องดูแลตัวเองพร้อมๆกับการต้องทำงาน เพื่อเลี้ยงครอบครัวเลี้ยงตัวเอง
ชีวิตต้องดำเนินต่อไปจริงๆ เหมือน “รามอินทรา” ยังต้องเขียนเรื่องราวให้อ่านกัน 3 เรื่อง 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น “รามอินทรา” ยกนิ้วให้ “รามอินทรา” จอ…จ่อ…จ้อ และ “รามอินทรา” จุ๊กจิ๊ก รักชอบสไตล์ไหน ก้อ…ติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้กันด้วย ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ไม่เชื่อต้องลองอ่านดู
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
16 กุมภาพันธ์ 2565