คนในสังคม ฉบับ 1,021
หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,021 ประจำวันที่ 10 – 16 เมษายน 2566 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวในแวดวง “คนยานยนต์” กับวังวนแห่งการเริ่มต้นของตลาดรถยนต์เมืองไทย เมื่อไฟแห่งงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ปิดลง นับจากนี้น่าจะเป็นการตามเก็บเกี่ยวยอดจอง ที่เป็นผลพวงจากงาน อยู่แค่ว่า…ใครจะสามารถเก็บเกี่ยวความสำเร็จได้มากกว่ากัน ด้วยเพราะยอดจองภายในงาน ยังไม่สำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ การตามเก็บจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า สุดท้ายแล้ว…แต่ละค่ายจะจบลงที่ตัวเลขเท่าไหร่? ถ้าจะเห็นผลกันจริงๆ น่าจะต้องรอให้จบสงกรานต์นั่นแหละ…*** ก้อ…ถูกถาม ทำไมต้องเข้างานทุกวัน คำตอบชัดๆ เป็นเรื่องปกติที่ “รามอินทรา” ปฏิบัติมาทุกปี…นอกจากต้องเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำสูจิบัตรมอเตอร์โชว์ ที่เปลี่ยนปกทุกวันแล้ว ยังหาข้อมูลมาเขียนใน “ยวดยาน” อีกด้วย และโปรดอย่าถาม…ไม่เบื่อหรือ? แค่ปีละ 12 วัน เท่านั้น เป็นความคุ้นชินแล้ว…*** ไม่รู้เป็นเพราะเดินเข้าออกทุกวันหรือปล่าววว… “รามอินทรา” เลยรู้สึก…งานมอเตอร์โชว์ มีต้นซอยแล้วก็ปลายซอย ชอบไปยืนอยู่หน้าบูธอีซูซุ หันหน้าเข้าบูธ ขวามือคือต้นซอย…ที่ปีนี้มี “บีเอ็มดับเบิลยู” ยึดพื้นที่ ทำให้ใบพัดสีฟ้าโบกสะบัด หันไปซ้ายมือเป็นปลายซอย มีเมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นดวงดาวพราวแสง มีรถจักรยานยนต์ฮอนด้ากับยามาฮ่า ส่องประกายเป็นเจ้าถิ่น…*** ปกติ “ต้นซอย” จะคึกคักกว่าปลายซอย เพราะมีทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู ยืนคู่ส่องประกายเรียกแขก แต่…พอ “ดวงดาว” โยกเยกหนีใบพัดสีฟ้ามาอยู่ปลายซอย กลายเป็นความคึกคักตั้งแต่ต้นซอยมาถึงปลายซอย “รามอินทรา” เลยรู้สึกเป็นความลงตัวอีกแบบหนึ่ง รู้สึกคึกคักตั้งแต่ต้นซอยไล่เลียงมายันปลายซอย ส่วนกลางซอยหายห่วง แค่ “อีซูซุ” เจ้าเดียวก็คึกคักหลายแล้ว…*** อีกคำถาม…ปีนี้ “รถไฟฟ้า” หรือ “รถน้ำมัน” ใครคึกคักเรียกแขกได้มากกว่ากัน คำตอบ…ทางใครก็ทางมัน โดยเฉพาะ “รถน้ำมัน” ยกมือให้ทุกค่าย เพราะประเภทแฟนใครแฟนมัน ส่วน “รถไฟฟ้า” ปีนี้เหมือนแบ่งโซนกับ “เอ็มจี” กับ “เกรท วอลล์” จับคู่อยู่ต้นซอย มีใบพัดสีฟ้าโบกสะบัดอยู่เคียงข้าง ส่วน “บีวายดี” กับ “เนต้า” จับคู่ค่อนมาทางปลายซอยมี “ดวงดาว” พราวแสงให้สว่างไสว คนสบายเป็นคนอยากเป็นเจ้าของ ค่อยๆ ดู ค่อยๆ พิจารณา ตามสบายแบบสบายกระเป๋า ซื้อแล้วต้องไม่เดือดร้อนเยอะ เลือกตามใจชอบเลย…*** เป็นความคึกคักและสีสันแห่งงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่ปิดฉากลงอย่างสวยงาม “รามอินทรา” ยังไม่ได้ตัวเลขยอดจองที่ชัดเจน ไว้ค่อยเก็บมารายงานกัน แต่อยากให้ติดตาม นี่เป็นแค่การเริ่มต้นของการเปิดตลาดแห่งปี 2566 อย่างแท้จริง นับจากนี้คือการช่วงชิงความสำเร็จ อยู่แค่ว่า…ค่ายไหนจะสามารถติดตาม “ยอดจอง” มาเป็น “ยอดจริง” ได้มากกว่ากัน ยังมีเวลาให้เก็บเกี่ยวอีกเยอะ นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น…*** สุดท้าย… “รามอินทรา” ขออนุญาตเป็นตัวแทน “คนกรังด์ปรีซ์” ขอบคุณทุกพลังที่เป็นส่วนผสมของความสำเร็จ ผลงาน “มอเตอร์โชว์” เป็นภาพรวมของประเทศไทยกับการก้าวข้ามวิกฤติ นับจากนี้ เชื่อว่า… “คนไทย” จะสามารถเต็มที่กับการประกอบธุรกิจ ใครจะค้นหาความสำเร็จได้มากกว่ากัน ในยุคที่อะไร…อะไร…ก็ใช้หน้าจอสี่เหลี่ยมเป็นองค์ประกอบสำคัญ โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลง “เรา” ก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย…*** ขอบคุณอย่างจริงใจ ขอบคุณที่ทำให้ได้เห็นคนเข้าชมงานแน่นเหมือนเช่นวันวาน ยังไงก็อย่าลืมเลือกเป็นเจ้าของรถคันที่ใช่สักคัน เพื่อเป็นของขวัญหลังวิกฤติคลี่คลาย ขอให้โชคดีมีรถใช้นะครับ…*** ส่วนจะเป็นรถน้ำมันหรือรถไฟฟ้า ก้อ…แล้วแต่ความชอบกับความใช่ อยากลองของใหม่ไม่อยากใช้น้ำมันที่ราคาขึ้นๆ ลงๆ ก้อ…ลองเลือกรถไฟฟ้าสักคัน ขอแค่สบายเป๋าตังค์ โอเคแล้ว…*** “รามอินทรา” ฝากข่าวเพื่อนพ้องน้องพี่ “กรังด์ปรีซ์กรุ๊ป” เริ่มจาก กรังด์ปรีซ์, มอเตอร์ไซค์, ออฟโรด, XO autosport และ Garage Life พลาดไม่ได้ทุกเล่ม เลือกซื้อกันได้ทั่วประเทศเลย พบกันใหม่ฉบับหน้า…สวัสดีครับ