ส่องกล้อง By The Great FORD Everest Titanium+ 4×4 ขับสบาย โดนใจสายลุย
รถอเนกประสงค์ยอดนิยมประจำค่ายฟอร์ดในประเทศไทย อย่าง เอเวอเรสต์ มีส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ ฟอร์ด ประเทศไทย ตัดสินใจที่จะทำตลาดเฉพาะรถกระบะและพีพีวี พร้อมเดินหน้าปูพรมด้วยรถใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นผู้เปิดตลาดรถกระบะไฮเอนด์ในตลาดประเทศไทย สร้างกระแส แร็พเตอร์ ฟีเวอร์ สร้างการตื่นตัวให้กับเพื่อนร่วมตลาด
สำหรับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจนล่าสุด ยังคงมาพร้อมทางเลือกที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องของรูปร่างหน้าตา รวมถึงสมรรถนะการใช้งาน เดินไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดรถกระบะ โดยรุ่นที่เรานำมาส่องกล้องในฉบับนี้ เป็นรุ่นท็อปสุด อย่าง FORD Everest Titanium+ 4×4
ไล่เรียงจากรูปร่างหน้าตาที่ผสานความสปอร์ตและทันสมัยได้อย่างลงตัว ทั้งยังคงไว้ซึ่งความบึกบึน โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อม Daytime Running Lights แบบ LED C-Clamp ที่สอดรับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ เติมความพรีเมียมด้วยกรอบกระจังหน้าวัสดุโครเมียม รวมถึงโลโก้บริเวณตรงกลาง ที่มาพร้อมกรอบโครเมียม เติมเต็มการใช้งานด้วยระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบป้องกันไฟแยงตา เติมเต็มด้วยล้ออัลลอย สี Chrome ขนาด 20 นิ้ว
ขยับมาดูภายในห้องโดยสาร เน้นโทนดำ โดดเด่นด้วยหน้าจอกลางระบบ Touchscreen ระบบ Multi-touch ขนาด 12.0 นิ้ว และมาตรวัด Full Digital แบบสี ขนาด 12.4 นิ้ว หลังพวงมาลัย มาพร้อมเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ แบบ Titanium+d เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับ-พับ ด้วยระบบไฟฟ้า เติมความพรีเมียมด้วยหลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร และไฟส่องสว่างข้างตัวรถ
โดยในรุ่นท็อป อย่าง FORD Everest Titanium+ 4×4 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์ พร้อมด้วยคันเกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic e-Shifter รวมถึงระบบดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้า Electronic Locking Rear Differential เสริมด้วยฟังก์ชัน Terrain Management System 6 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery, Mud/Ruts และ Sand ส่งกำลังผ่าน เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ Electric Shifter
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ตอบสนองคันเร่งด้วยพละกำลัง 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานด้วยระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน รวมถึงระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ที่ช่วยให้สามารถจอดรถได้อย่างสบายและปลอดภัย
ภาพรวมของ FORD Everest Titanium+ 4×4 มีความน่าสนใจทั้งในเรื่องของรูปโฉม รวมถึงสมรรถนะการใช้งานที่ครบครัน ทันสมัย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทั้งวิถีคนเมืองด้วยความคล่องตัวและความอเนกประสงค์ภายในห้องโดยสาร เติมเต็มด้วยเทคโนโลยีเสริมการใช้งานที่เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับการใช้งาน ทั้งยังพร้อมลุยบนเส้นทางออฟโรดด้วยออปชันที่ฟอร์ดใส่เข้ามาให้ครบครัน ช่วยให้การขับขี่บนทางฝุ่นหรือโคลน รวมถึงทางลาดชันให้ง่ายยิ่งขึ้น
โดยส่วนตัวยังคงชื่นชอบในฟีลลิ่งการขับขี่ของค่ายฟอร์ด ที่โดดเด่นในเรื่องของความทันสมัย รวมถึงพละกำลังที่ตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายแล้ว หากไม่เน้นลุยอะไรมากมาย ลองมองไปที่ตัวรอง ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ด้วยค่าตัวที่ถูกกว่า 150,000 บาท ก็น่าจะพอเพียงและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าพร้อมลุย ก็จัดตัวท็อปไปเลย จบๆ
รายละเอียดทางเทคนิค
ชื่อรุ่น FORD Everest Titanium+ 4×4
มิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง (มิลลิเมตร) 4,914 x 1,923 x 1,842
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) 2,900
เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่
ขนาด (ซี.ซี.) 1,996
พละกำลังสูงสุด (แรงม้า) 210 ที่ 3,750 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร) 500 ที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ Electric Shifter
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Terrain Management System
ระบบช่วงล่าง หน้า ดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
หลัง วัตต์ลิงก์ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
ระบบเบรก หน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
หลัง ดิสก์เบรก
ล้อ หน้า/หลัง ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว
ยาง หน้า/หลัง GOODYEAR WRANGLER TERRITORY HT ขนาด 255/55R20
ราคาจำหน่าย 1,874,000 บาท