“ซิตี้” ทวงบัลลังก์ ปรับโฉม เติมออปชัน
ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เพิ่มความสดใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ในไลน์อัปด้วย ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปรับโฉมปี 2023 มาพร้อมความโฉบเฉี่ยว ทันสมัยยิ่งขึ้น ยกระดับการใช้งานด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย ขยับราคาเพิ่ม 10,000-20,000 บาท สำหรับขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร ขณะที่ฟูลไฮบริด e:HEV ขายราคาเดิม
เจเนอเรชันที่ 5 ของฮอนด้า ซิตี้ เปิดตัวในประเทศไทยช่วงปลายปี 2019 ภายใต้ขุมพลังใหม่ 1.0 ลิตร เทอร์โบ และยังคงไว้ซึ่งความนิยมของหนึ่งในตัวขายค่ายฮอนด้า ภายใต้บทบาทซิตี้คาร์ ก่อนที่จะเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วยขุมพลัง e:HEV ในปีถัดมา พร้อมด้วย ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับฮอนด้าในตลาดบี-เซ็กเมนต์ และเช่นกันกับขุมพลัง e:HEV ที่ใส่มาเพิ่มในบอดี้ 5 ประตูอย่างแฮทช์แบ็ก ทำตลาดร่วมกับขุมพลัง 1.0 ลิตร เทอร์โบ
ล่าสุด ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปรับโฉมปี 2023 ได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดย มร.ฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เป็นเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ ที่ฮอนด้า ซิตี้ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับซิตี้คาร์ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาโดยตลอด ด้วยยอดขายสะสมเกือบ 800,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ส่งผลให้ ฮอนด้า ซิตี้ เป็นแบรนด์ยอดนิยมที่อยู่ในใจลูกค้าเสมอมา
“ในวันนี้ผมเชื่อมั่นว่า ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ปรับโฉมใหม่ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่เสริมความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น และภายในที่กว้างขวาง สะดวกสบายในทุกที่นั่ง โดยรุ่น e:HEV จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในชีวิตประจำวันให้กับลูกค้าได้อย่างไร้กังวล และยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และรุ่น TURBO ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งาน ด้วยการขับขี่ที่แรง เร้าใจ และสะดวกสบายเกินคลาส โดยทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งเมื่อลูกค้าได้สัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ จะต้องประทับใจในความครบครันของรถซิตี้คาร์รุ่นนี้อย่างแน่นอน”
สำหรับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น ด้วย กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง และกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตแบบ RS รวมถึงภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง โปร่งโล่ง เสริมลุคสปอร์ตพรีเมียมใหม่กับเส้นสายสีแดงภายใน มาพร้อมระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมต
ยกระดับการใช้งานด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย ผสานการทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงาน ได้แก่ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
ตอบสนองการใช้งานด้วย 2 ขุมพลังทางเลือก ได้แก่ ฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และ แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน มอบแรงบิดมอเตอร์สูงสุด
ที่ 253 นิวตันเมตร ทั้งยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 และขุมพลังเบนซิน 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 เช่นกัน
มีให้เลือกใช้ 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท และ รุ่น e:HEV SV ราคา 769,000 บาท ขณะที่ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น RS ราคา 749,000 บาท, รุ่น SV ราคา 679,000 บาท และรุ่น V ราคา 629,000 บาท
เสริมความพรีเมียมด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล อาทิ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ราคา 15,600 บาท, คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท, คิ้วบันไดสเตนเลส LED ราคา 4,400 บาท หรือเลือกใช้ในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่ Modulo Aero Package ราคา 15,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้าแบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลังแบบ 2 ชิ้น รวมถึงกระบะใส่ของท้ายรถ สำหรับรุ่น TURBO ราคา 1,100 บาท, สำหรับรุ่น e:HEV ราคา 1,250 บาท