‘Classic 350’ ระดับตำนาน สไตล์ย้อนยุค เหนือกาลเวลา
“All-New Royal Enfield Classic 350” รุ่นระดับตำนาน สไตล์ย้อนยุค พัฒนาให้ร่วมสมัย มาพร้อมเครื่องยนต์ J-series ใหม่ล่าสุด และแชสซีใหม่ทั้งชุด มีให้เลือกถึง 9 สี
มร.บี โกวินดาราจาน กรรมการบริหาร รอยัล เอ็นฟิลด์ กล่าวว่า “รอยัล เอ็นฟิลด์ ได้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อเติบโตในประเทศต่างๆ และขยายเซ็กเมนต์รถจักรยานยนต์รุ่นมิดเดิลเวททั่วโลกมาตลอด และเพื่อให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบทางการตลาดที่สำคัญ เราได้ดำเนินการตามแผนในการจัดตั้งโรงงานประกอบรถจักรยายนต์ในประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาใต้ และจะเปิดตัวโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์ในประเทศแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ประเทศไทย โดยมีแผนกลยุทธ์ในการขยายเครือข่าย ความสามารถในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ในตลาดต่างประเทศ ความสำเร็จของ Twins 650 และ Meteor ให้แรงบันดาลใจกับเรามาก เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เติบโตอยู่เรื่อยๆ ของประเทศไทย การตัดสินใจเริ่มประกอบรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย และการเปิดตัวรอยัล เอ็นฟีลด์
Classic 350 ที่นี่ ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของเรา และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น”
All-new Classic 350 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สูบเดียว 349 ซี.ซี. ระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่ทันสมัยและได้รับความนิยมทั่วโลก ธรรมดาเกียร์ 5 สปีด ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ และยังคงรักษาเสียงกระหึ่มของท่อไอเสียไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน แชสซีถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อความสะดวกสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า ทั้งยังมีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำความเร็วสูงขึ้นขณะเข้าโค้ง และให้ความรู้สึกมั่นคงและยึดเกาะถนนทางตรงได้ดีเยี่ยมเช่นกัน ระบบกันสะเทือนด้านหน้าและด้านหลังได้รับการพัฒนาอย่างครบถ้วนทุกรายละเอียดเพื่อให้นั่งบนอานได้อย่างสบายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการใช้หลักสรีระศาสตร์ในการขับขี่ที่ดีขึ้นและการเบรกที่มั่นใจมากขึ้น Classic ให้ความรู้สึกคล่องตัวและตอบสนองได้ดี จึงมั่นใจได้ว่าประสบการณ์การขับขี่ในแต่ละครั้งจะเป็นประสบการณ์ที่ดีขึ้น
Royal Enfield Classic 350 มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยโทนสี 9 สี เริ่มด้วย Classic Chrome, Classic Signals, Dark series และ Halcyon series
โดย Classic Chrome เป็นรุ่นพรีเมียม สะท้อนถึงรูปลักษณ์และความรู้สึกที่สวยน่ามองทุกรายละเอียด มีให้เลือกในสีทูโทนในสองคู่สี คือ Chrome Red และ Chrome Bronze ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 155,000 บาท
Classic Signals มีให้เลือกในสี Marsh Grey และ Desert Sand รูปลักษณ์เน้นความเกี่ยวพันระหว่างรอยัล เอ็นฟิลด์กับกองทัพ แต่ละคันมาพร้อมตราสัญลักษณ์และกราฟิกรวมถึงหมายเลขบนถังน้ำมันที่ไม่ซ้ำกัน ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 147,000 บาท
Dark series สะท้อนความเป็นหนุ่มสาว ทันสมัยในแบบฉบับชีวิตเมือง โดยมาในสี Stealth Black และ Gunmetal Grey และมาพร้อมกับล้ออัลลอยและยางแบบไม่มียางใน ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 154,000 บาท
Halcyon series ตามชื่อคือการเฉลิมฉลองมรดกตกทอดของ Classic สะท้อนถึงรูปลักษณ์คลาสสิกย้อนยุคอันรุ่งโรจน์ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Green, Grey และ Black ราคา 139,900 บาท
ทั้งนี้รอยัล เอ็นฟิลด์ จะเริ่มการผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยเร็วๆ นี้ โดยร่วมมือกับ GPX ซึ่งถือเป็นการประกาศครั้งสำคัญที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในประเทศไทย และต่างประเทศของแบรนด์ อีกทั้งเป็นการประกอบ และผลิตรถจักรยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนอกเหนือจากโรงงานในเมืองเชนไน (Chennai) ประเทศอินเดีย ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของแบรนด์ด้วย