“GWM” กางแผนปี 66 เปิด 5 รุ่นบุกตลาดในไทย
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยแผนธุรกิจในตลาดประเทศไทย ปี 2566 ด้วยการแนะนำตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ “TANK” เข้าสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รวมไปถึงการเปิดตัวเจ้าแมวเหมียวไฟฟ้ารุ่นใหม่ อย่าง โอร่า แกรนด์ แคท
มร.ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปี 2566 นี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ 5+3 เพื่อรุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้าไปดำเนินงานอย่างเป็นทางการใน 5 ประเทศ คือ ไทย, ลาว, พม่า, บรูไน และมาเลเซีย เรามีแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์ในอีก 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ รวมถึงผลักดันให้ประเทศไทยและโรงงานที่จังหวัดระยอง เป็นศูนย์กลางของยานยนต์ไฟฟ้าและฐานการผลิตเพื่อส่งออกอย่างเต็มรูปแบบ
ขณะยอดขายของบริษัทในปีที่ผ่านมา นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำยอดขายอยู่ที่ 11,616 คัน เติบโตขึ้น 214% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยจำแนกออกเป็น ORA Good Cat มียอดขาย 4,326 คัน, HAVAL H6 Plug-in Hybrid ขาย 4,135 คัน ขณะ HAVAL JOLION Hybrid มียอดขายอยู่ที่ 3,155 คัน
ส่วนการคาดการณ์ยอดขายในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 18,000 คัน เติบโตขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2565 ขณะที่ภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะอยู่ที่ราว 9.2 แสนคัน เติบโตขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV) อยู่ที่ราว 164,500 คัน หรือเติบโตขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) ที่ 25% หรือราว 40,000 คัน โดยมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 150% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในปี 2566 บริษัทมีแผนการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เพิ่มอีก 5 รุ่น และเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ “TANK” ที่มีทั้ง TANK 500 รถยนต์เอสยูวีออฟโรดขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม, TANK 300 รถยนต์เอสยูวีออฟโรดสำหรับไลฟ์สไตล์ และรถไฟฟ้า 100% สปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง ORA Grand Cat
ขณะเดียวกัน มีอีก 2 รุ่นที่เตรียมจะเปิดตัวภายในปีนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามแผน 9 in 3 หรือการเปิดตัว 9 รุ่น ภายใน 3 ปี โดยนับตั้งแต่ปี 2563-2565 มีการเปิดตัวไปแล้ว 5 รุ่น รวมถึงแผนการขยาย GWM Store ในรูปแบบ Direct Store และ Partner Store ซึ่งได้รับการแต่งตั้งไปแล้วทั้งหมด 80 แห่ง โดยเปิดดำเนินการไปแล้ว 62 แห่ง ในปี 2565 และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 18 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่สำคัญของประเทศ และในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าขยายเพิ่มขึ้นอีก 20 แห่ง รวมเป็น 100 แห่งทั่วประเทศ
ในปี 2566 ตั้งเป้าจะเปิดให้บริการสถานีชาร์จให้ครบ 55 แห่ง โดยจะก่อสร้างเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการจำนวน 8 แห่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยสถานีชาร์จของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเป็นแบบชาร์จเร็ว (DC Charge) กำลังไฟฟ้าสูงสุด 120 กิโลวัตต์ ให้บริการ 24 ชั่วโมงทุกวัน ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดสำคัญต่างๆ และพร้อมให้บริการแก่รถยนต์ไฟฟ้าทุกยี่ห้อและทุกรุ่น
ในปีนี้บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กร (B2B) หรือฟลีท ซึ่งได้เริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งมียอดขายในกลุ่มดังกล่าวอยู่ที่ราว 200 คัน จากบริษัทรถเช่าชั้นนำจัดซื้อรถเพื่อนำไปปล่อยเช่าทั้งในรูปแบบต่างๆ ซึ่งในปี 2566 จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ และสนับสนุนกลุ่มอาชีพพิเศษ อาทิ ผู้พิพากษา ตำรวจ ทหารและข้าราชการ พร้อมจับมือพันธมิตรสร้างบัตรชาร์จไฟฟ้าเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าองค์กร
นายณรงค์ กล่าวว่า บริษัทยังเริ่มเปิดธุรกิจรถมือสอง (Used Car) ภายใต้ชื่อ GWM Certified Pre-Owned เพื่อรักษาระดับราคาขายต่อและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และการขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 75% เพื่อให้ครอบคลุมกับจำนวนรถอย่างน้อย 9 รุ่น ภายในปี 2566 และเสริมความพร้อมให้กับ Partner Store ด้วยการเพิ่มรอบจัดส่งอะไหล่ด่วนพิเศษในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใน 3 ชั่วโมง และส่งอะไหล่ให้ศูนย์บริการทั่วประเทศได้ภายใน 1 วันทำการถัดไป รวมถึงเพิ่มปริมาณการจัดเก็บอะไหล่ขึ้นอีกถึง 3,000 รายการ นอกจากนี้ เพื่อลดระยะเวลาการซ่อมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น