“NETA” พร้อมผลิตปี 2567 ย้ำความสำคัญประเทศไทย
เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) ประเดิมแผนกลยุทธ์ธุรกิจระดับสากล ปี 2566 เดินหน้าแผนงานโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาสำหรับตลาดในภูมิภาคอาเซียนในประเทศไทย โดยผนึกกำลังพันธมิตรกับบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี ตั้งเป้าเปิดสายพานการผลิตภายในปี 2567
ปัจจุบัน NETA มีศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวม 6 แห่ง โดย 3 แห่งอยู่นอกประเทศจีน ครอบคลุมทั้งในเยอรมนี อิตาลี รวมทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะใน สหรัฐอเมริกา พร้อมโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้มาตรฐานระดับโลก รวม 3 โรงงาน ตั้งอยู่ในมณฑลเจ้อเจียง มณฑลเจียงซี และหนานหนิง เขตกวางสี ที่มีกำลังการผลิตรวม 250,000 คันต่อปี
สำหรับโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย โดยความร่วมมือกับ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแผนการดำเนินงานของ NETA ในระดับสากล เพราะนอกจากจะเป็นโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล สามารถผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีคุณภาพและนวัตกรรมขั้นสูงในราคาที่จับต้องได้แล้ว โรงงานดังกล่าวจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาสำหรับตลาดภูมิภาคอาเซียน
และยกระดับความสามารถในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ NETA โดยรวมให้สูงกว่า 250,000 คัน รองรับการเติบโตของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของโลกได้เป็นอย่างดี ซึ่งการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและสามารถเริ่มการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า NETA ได้ ภายในปี 2567
มร.จาง หย่ง ผู้ก่อตั้งและประธาน บริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด กล่าวว่า “การสร้างโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ NETA ในประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของแผนงานระดับสากลของ NETA เพื่อเป็นรากฐานที่ต่อยอดไปยังการพัฒนาส่วนงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในแผนกลยุทธ์การขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกของเรา การร่วมมือกับบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลีในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการลงทุนสร้างฐานการประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทันสมัยของ NETA ในภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเสริมสร้างทักษะบุคลากรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และสนับสนุนให้ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกและรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”
ในปัจจุบัน NETA มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำตลาด 3 รุ่น ได้แก่ NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์ City Car, NETA U รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์ SUV และ NETA S รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ในประเทศจีนอีกหนึ่งรุ่น ภายในกลางปีนี้ ทั้งนี้ NETA พร้อมร่วมปฏิรูปการใช้พลังงานใหม่ รวมไปถึงมีส่วนร่วมในการจัดทำห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของโลก เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ด้าน นายวันชัย จึงสงวนพรสุข ประธานบริหาร บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด กล่าวว่า “บริษัทประสบความสำเร็จในการประกอบรถยนต์และให้บริการแบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลกมายาวนานกว่า 50 ปี จนเป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจยานยนต์ว่าเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์มากที่สุดบริษัทหนึ่งในประเทศไทย”
“วันนี้เราได้ก้าวผ่านสู่ขั้นตอนสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การขนส่งอย่างยั่งยืน ด้วยความร่วมมือกับ NETA ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าระดับแนวหน้า โดยการนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่น NETA V มาประกอบที่โรงงานประกอบรถยนต์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางชันแห่งนี้ และมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะไม่เพียงแต่สร้างโอกาสให้กับคนไทย แต่ยังเป็นตัวเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอีกด้วย”