“XM 50e” ขาย 2 รุ่น เติมเต็มไลน์อัพ SAV
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เดินหน้าสานต่อแนวทางการขยายพอร์ตยานยนต์พลังงานทางเลือกในประเทศไทย ด้วย บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e รถยนต์อเนกประสงค์ในตระกูล XM ผสานความแข็งแกร่งและทันสมัยทั้งภายนอกและภายใต้การตอบสนองการใช้งานด้วย 2 รุ่นทางเลือก ภายใต้ราคา 6,799,000-699,000 บาท
หลังจากที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในประเทศไทยด้วยรถรุ่นใหม่ภายในงาน BMW Xpo 2023 ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มาพร้อมยานยนต์ขุมพลังทางเลือก ไล่เลียงจาก ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ไปจนถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องของรูปโฉมและสมรรถนะการใช้งาน
ล่าสุดเติมเต็มไลน์อัพรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ Sport Activity Vehicle (SAV) รุ่นที่ 2 ในตระกูล XM โดยรูปโฉมภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่มลักชัวรี่ พร้อมองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์อื่นๆ โดดเด่นด้วยไฟหน้าสองชั้น และกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ Iconic Glow ที่มาพร้อมกรอบไฟส่องสว่างล้อมรอบกระจังหน้าทั้งคู่
ด้าน Shadow Line เสริมความโดดเด่นด้วยวัสดุตกแต่งสีดำเงา แถบสีด้านข้างรถที่ชวนให้นึกถึงบีเอ็มดับเบิลยู M1 ยกระดับดีไซน์ด้านข้างของบอดี้ การออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู XM ยังรวมเอาองค์ประกอบต่างๆ ที่ชวนให้นึกถึงอดีต อาทิ โลโก BMW ที่สลักไว้ที่กระจกหลังและไฟท้าย รวมถึงชิ้นส่วนอื่นๆในสีดำเงา โดย บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e มาพร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double Spoke แบบสลับสี ส่วนในรุ่น Shadow Line มาพร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 23 นิ้ว ลาย Star Spoke แบบสลับสี
ภายในห้องโดยสารตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M และเข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M ให้ความรู้สึกสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวในการขับขี่ ผ้าบุหลังคาลวดลายแบบปริซึมและเมื่อเปิดหลังคาก็จะพบกับหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงบนหลังคาที่ส่องสว่างอย่างงดงามยามค่ำคืน คอนโซลด้านบนบุด้วยหนังแบบ BMW Individual พร้อมด้วยชุดไฟตกแต่งภายใน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบระบายอากาศและฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสําหรับเบาะนั่งตอนหน้า
ยกระดับระบบความบันเทิงและการสื่อสารด้วยหน้าจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ IconicSounds Electric ให้เสียงขับที่กระตุ้นความตื่นเต้นแม้ในโหมดการขับขี่แบบไร้
สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพากับรถยนต์แบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังจะได้รับประโยชน์จาก Connected Package Professional ช่วยให้มั่นใจว่าจะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและข้อมูลการจราจรอัปเดตล่าสุดเมื่ออยู่บนท้องถนน นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ยังมาพร้อมระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e (Shadow Line) มาพร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี M TwinPower Turbo และระบบขับเคลื่อน M Hybrid พละกำลังสูงสุด 476 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ภายใต้โหมดไฟฟ้าซึ่งรีดพละกำลัง 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตันเมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยใช้พลังงานจากลิเธียม-ไอออน แบตเตอรี่ขนาด
29.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้ท้องรถ สามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 101 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ เคาะราคาจำหน่าย 6,799,000 บาท ขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e (Shadow Line) มาภายใต้ราคา 6,999,000 บาท มีสีภายนอกให้เลือกใช้ 6 สี ได้แก่ Marina Bay Blue Metallic, Toronto Red Metallic, Isle of Man Green Metallic, Sao Paulo Yellow Solid, Black Sapphire Metallic, และ Mineral White Metallic และสีภายในได้ 2 สี ได้แก่ BMW Individual leather Merino สีดำ และ Sakhir Orange