ตลาดรถยนต์เครื่องร้อน ส่งยอดสิงหาฯ พุ่ง 60%
โตโยต้าแจงยอดขายเดือนสิงหาคม เติบโตขึ้นทุกตลาด ทะลุ 60% กวาดยอดขายรวมทั้งสิ้น 68,208 คัน เพิ่มขึ้น 61.7% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,530 คัน เพิ่มขึ้น 62.7% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 45,678 คัน เพิ่มขึ้น 61.2% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนต์นี้มีจำนวน 36,528 คัน เพิ่มขึ้น 67%
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม มีปริมาณการขาย 68,208 คัน เพิ่มขึ้น 61.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 62.7% ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเจริญเติบโตเช่นเดียวกัน ที่ 61.2%
“ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูกาล Low Season ในการขายรถ ทว่า งานมหกรรมยานยนต์ BIG Motor Sale ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นตัวช่วยกระตุ้นตลาดให้คงความคึกคัก พร้อมด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายในงาน รวมถึงแคมเปญส่งเสริมการขายจากทุกค่ายรถยนต์ ที่นอกจากกระตุ้นยอดขายภายในงาน ยังขยายไปสู่ลูกค้าที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศอีกด้วย ช่วยสร้างความคึกคักให้แก่ตลาดรถยนต์ได้เป็นอย่างมาก สนับสนุนด้วยความต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางยุคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีความคล่องตัว และประหยัดน้ำมัน”
ส่วนแนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายน มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากการทยอยส่งมอบรถที่รับจองในงาน BIG Motor Sale ของทุกค่ายรถยนต์ ตลอดจนการส่งมอบรถจากแคมเปญในช่วงนี้สู่ลูกค้าทั่วประเทศ นอกจากนี้ ด้วยสภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เป็นตัวผลักดันให้ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ซึ่งใช้ในการประกอบธุรกิจ มีตัวเลขการขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง แต่อาจมีปัจจัยลบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ส่งผลชะลอการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนสิงหาคม 2565
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 68,208 คัน เพิ่มขึ้น 61.7%
อันดับ 1 โตโยต้า 23,356 คัน เพิ่มขึ้น 88.9% ส่วนแบ่งตลาด 34.2%
อันดับ 2 อีซูซุ 15,858 คัน เพิ่มขึ้น 43.7% ส่วนแบ่งตลาด 23.2%
อันดับ 3 ฮอนด้า 7,071 คัน เพิ่มขึ้น 32.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,530 คัน เพิ่มขึ้น 62.7%
อันดับ 1 โตโยต้า 7,405 คัน เพิ่มขึ้น 100.5% ส่วนแบ่งตลาด 32.9%
อันดับ 2 ฮอนด้า 5,817 คัน เพิ่มขึ้น 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 25.8%
อันดับ 3 มิตซูบิชิ 1,592 คัน เพิ่มขึ้น 54.4% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 45,678 คัน เพิ่มขึ้น 61.2%
อันดับ 1 โตโยต้า 15,951 คัน เพิ่มขึ้น 84.0% ส่วนแบ่งตลาด 34.9%
อันดับ 2 อีซูซุ 15,858 คัน เพิ่มขึ้น 43.7% ส่วนแบ่งตลาด 34.7%
อันดับ 3 ฟอร์ด 4,674 คัน เพิ่มขึ้น 132.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.2%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pickup และรถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 36,528 คัน เพิ่มขึ้น 67.0%
อันดับ 1 อีซูซุ 14,633 คัน เพิ่มขึ้น 51.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.1%
อันดับ 2 โตโยต้า 13,923 คัน เพิ่มขึ้น 79.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
อันดับ 3 ฟอร์ด 4,674 คัน เพิ่มขึ้น 132.3% ส่วนแบ่งตลาด 12.8%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,808 คัน
โตโยต้า 2,380 คัน, อีซูซุ 1,666 คัน, ฟอร์ด 1,151 คัน, มิตซูบิชิ 519 คัน, นิสสัน 92 คัน
ตลาดรถกระบะ (Pure Pickup) ปริมาณการขาย 30,720 คัน เพิ่มขึ้น 58.4%
อันดับ 1 อีซูซุ 12,967 คัน เพิ่มขึ้น 44.9% ส่วนแบ่งตลาด 42.2%
อันดับ 2 โตโยต้า 11,543 คัน เพิ่มขึ้น 73.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.6%
อันดับ 3 ฟอร์ด 3,523 คัน เพิ่มขึ้น 99.9% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%